ประวัติขนมหวานญี่ปุ่น Wagashi
วากาชิ (和菓子 / Wagashi) คือ ขนมหวานญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีการผสมผสานศิลปะ
ความเป็นญี่ปุ่นในสมัยเมืองหลวงเก่า “เกียวโต” ไว้ได้อย่างลงตัว
ตัวอักษร 和 (wa) แปลว่า “แห่งความเป็นญี่ปุ่น” และตัวอักษร 菓子 (kashi) แปลว่า “ขนมหวาน”
นำมารวมกันก็จะหมายถึงขนมหวานของญี่ปุ่นนั่นเอง วากาชิเป็นหนึ่งในสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง
แก่นแท้ความเป็นญี่ปุ่น และนอกจากนั้นยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
ญี่ปุ่นรับอิทธิพลการทำขนมโดยใช้เมล็ดข้าวเป็นวัตถุดิบจากประเทศจีน ผ่านทางพระสงฆ์
ที่เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาในยุคนาระ (Nara / ค.ศ. 710-784) และชาวเมืองในสมัยนั้น
ก็เริ่มคิดค้น “โมจิ” และ “ดังโงะ” แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วขนมเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ใน
ทางศาสนามากกว่า ประชาชนทั่วไปไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสเท่าไรนัก
รูปแบบพื้นฐานของวากาชิที่เราเห็นกันทุกวันนี้เริ่มมาจากยุคนี้นั่นเอง
ขนมหวานญี่ปุ่นมีวิวัฒนาการที่โดดเด่นที่สุดในช่วงปลายยุคสมัยมุโรมาจิ (Muromachi / ค.ศ. 1336-1573)
เมื่อประเทศญี่ปุ่นเริ่มติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ การค้าขายกับโปรตุเกสและสเปนได้นำเอาสูตรอาหาร
และวัตถุดิบใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งมีอิทธิพลต่อการทำวากาชิในสมัยนั้นมาก ก่อนหน้านั้นความหวานของวากาชิ
จะขึ้นอยู่กับรสชาติตามธรรมชาติของส่วนผสมเสียมากกว่า แต่การเข้ามาของน้ำตาลปฏิวัติสูตร
สำหรับความหวานในวากาชิเลยทีเดียว และยังเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาวากาชิในยุคต่อๆ มาอีกด้วย
ศิลปะของวากาชิได้รับการพัฒนาจนถึงจุดสูงสุดในช่วงต้นยุคสมัยเอโดะ (Edo / ค.ศ. 1603-1867)
มีการพัฒนาสูตรขนมต่างๆ และการแข่งขันมากมาย ทั้งในเกียวโต, เอโดะ และภูมิภาคอื่นๆ
ชาวเมืองทั่วไปต่างก็ได้เพลิดเพลินกับขนมหวานต่างๆ กันได้อย่างอิสระ
ขนมหวานญี่ปุ่นชั้นเลิศต่างก็ถูกคิดค้นขึ้นในยุคนี้เช่นกัน การนำขนมหวานไปใช้ในโอกาสต่างๆ
ก็มีให้เห็นมากขึ้น เช่น ใช้ทานในพิธีชงชา, ทานเป็นของว่างยามบ่าย หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญต่างๆ
ในช่วงยุคเมจิ (Meiji / ค.ศ. 1868-1912) เค้กและขนมหวานสไตล์ตะวันตกเริ่มเข้ามาในญี่ปุ่น
และมีอิทธิพลต่อวากาชิเป็นอย่างมาก คำว่า “วากาชิ” นี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปลายยุคไทโช
(Taisho / ค.ศ. 1912-1926) เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างขนมหวานญี่ปุ่นออกจากขนมสไตล์ตะวันตก
หรือที่เรียกว่า “โยกาชิ” (洋菓子 / Yougashi) นั่นเอง ถึงแม้ว่าวากาชิจะได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างประเทศ
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่ก็ยังรู้สึกสัมผัสได้ถึงศิลปะและความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
และวากาชิจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่จะพัฒนาและเติบโตต่อไปอีกนาน