ช่วงเวลาอบอุ่นใจใน Aizu Wakamatsu ท่ามกลางหิมะโปรยปรายกับ 3 พิกัดเที่ยวฤดูหนาว
จังหวัดฟุกุชิมะใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น สามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียว โดยในเวลาเพียง 90 นาที และเป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ภูมิภาคโทโฮคุ โดยเฉพาะเมืองไอสึ วากามัตสึ (Aizu Wakamatsu) ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว หากมาเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะ เมืองนี้คือเมืองที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวเลย!
ครั้งนี้ เราจึงขอแนะนำ 3 สถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปไปสัมผัสกับความงามของทิวทัศน์ท่ามกลางหิมะและงานอีเวนต์ที่มีเฉพาะในฤดูหนาวกัน!
“ปราสาทสึรุกะ” ปราสาทเดียวในญี่ปุ่นที่ใช้หลังคากระเบื้องสีแดง
ปราสาทสึรุกะ เป็นปราสาทเดียวในญี่ปุ่นที่ใช้หลังคากระเบื้องสีแดง ตัวปราสาทและพื้นที่รอบข้างได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะเห็นต้นไม้ที่มีใบเขียวขจี ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้เห็นสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาวจะได้ชมปราสาทที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่งที่นี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะ
การเดินทาง: นั่งรถบัสสาย ‘Haikarasan’ หรือ ‘Akabe’ ที่ป้ายรถบัสหน้าสถานีไอสึ วากามัตสึ มาลงที่ป้าย Tsuruga-jo San no Maruguchi
บ้านของอดีตซามูไรในยุคเอโดะ “คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ”
คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ เป็นบ้านของอดีตซามูไรในยุคเอโดะ ภายในอาคารถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ราวกับได้ย้อนเวลาไปในโลกของซามูไรเมืองไอสึ
การเดินทาง: ขึ้นรถบัส ‘Akabe’ มาลงที่ป้าย Aizu Bukeyashiki-Mae
ช่วงเวลาแนะนำ: เทศกาลเทียนประดับภาพวาดยูคิโฮตารุ
เทียนประดับภาพวาดไอสึ คืองานฝีมือที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของเมืองไอสึ มีทั้งลายดอกเบญจมาศ ดอกโบตั๋น และดอกบ๊วย ในอดีตเป็นที่นิยมมากในสังคมซามูไรญี่ปุ่น เทียนประดับภาพวาดไอสึแต่ละเล่มสร้างขึ้นอย่างประณีตด้วยฝีมือของช่างฝีมือ ถ้ามาในช่วงเทศกาล เราสามารถเดินชมเทียนวาดภาพอาอิซุได้ที่ปราสาทสึรุกะ คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ และสวนสมุนไพรโอยะคุเอ็น
โดยที่สวนสมุนไพรโอยะคุเอ็นจำนำเสนอในธีมโลกแห่ง “ความเงียบ” ในขณะที่ปราสาทสึรุกะจะนำเสนอโลกแห่ง “ความเคลื่อนไหว” ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยในปี 2025 เทศกาลจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 7 และวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยเทศกาลเทียนประดับภาพวาดจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ สถานที่สองแห่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าของคนเมืองไอสึ เราจึงจะได้สัมผัสความงดงามของเปลวไฟที่ส่องแสงระยิบระยับได้อย่างเต็มที่
“ถนนสายนาโนะคะมาจิ” ถนนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุค
ในสมัยการปกครองแบบระบบศักดินา ถนนสายนาโนะคะมาจินอกจากจะเป็นประตูทางเข้าสู่ทิศตะวันตกของปราสาทแล้ว ยังเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมไปสู่เมืองอื่นอีกห้าสายด้วย ในอดีตจึงมีโรงเตี๊ยมและร้านอาหารเรียงรายจำนวนมาก
และในปัจจุบัน ที่นี่ก็ยังมีอาคารที่มีอายุมากกว่า 100 ปีให้เราได้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศสุดวินเทจ สนุกไปกับการเดินเล่น แวะคาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกซึ่งยังคงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมได้
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสายทาดามิจากสถานีไอสึ วากามัตสึ และลงที่สถานีนาโนะคะมาจิ
พิกัดแนะนำบนถนนสายนาโนะคะมาจิ: พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำยุคโชวะ
พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำแห่งยุคโชวะ ตั้งอยู่บนชั้นสองของร้านขายของวินเทจ “COTTON CLUB AIZU” ที่นี่จำลองบรรยากาศของยุคสมัยโชวะที่จะทำให้เราได้เห็นว่า “แม้จะอยู่ท่ามกลางความยากจน แต่ก็ยังมีจิตวิญญาณเต็มเปี่ยม” โดยสิ่งของที่จัดแสดงอย่างเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่าง ๆ เป็นของที่เคยใช้จริงในอดีต และสิ่งที่นำมาจัดแสดงก็จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลด้วย
ที่พักแนะนำ: โรงแรมฮิกาชิยามะออนเซ็น มุไคทาคิ
ฮิกาชิยามะออนเซ็น เป็นย่านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไอสึ วากามัตสึ ส่วนโรงแรม “มุไคทาคิ” นั้นคือเรียวกังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของประเทศญี่ปุ่น ในเรียวกังนี้ยังคงรักษาบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นสวนญี่ปุ่นซึ่งอยู่ใจกลางท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปรายจากระเบียงได้อีกด้วย
การเดินทาง: นั่งรถบัส “Haikarasan” หรือ “Akabe” และลงที่ป้ายรถบัสสถานีฮิกาชิยามะออนเซ็น
อ่าน “ไปชมวิวสุดตระการตา 3 จุดชมวิวทะเลหมอกแบบพาโนราม่า กับ JR EAST กัน!” คลิก