BALLISTIK BOYZ from EXILE TRIBE กับการมุ่งหน้าสู่ระดับอินเตอร์ เริ่มทำกิจกรรมในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้!
ศิลปินกลุ่มที่มีความสามารถทั้งการเต้นและการร้อง และการร่วมมือกันกับค่ายเพลงไทย
“BALLISTIK BOYZ from EXILE TRIBE” ศิลปินกลุ่มที่มีความสามารถทั้งด้านการร้องและการเต้น ประกอบด้วยสมาชิก 7 คนซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะมุ่งสู่ระดับอินเตอร์ พวกเขาเคยเดินทางโปรโมทตามประเทศต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซียมาแล้ว และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ 5 ในชื่อ “LAST DANCE NI BYE BYE” (ラストダンスに BYE BYE) ราวกับตั้งใจจะเริ่มโปรเจกต์ใหม่เพื่อเป็นการบอกลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นเอง
ด้วยข้อตกลงและความร่วมมือระหว่างค่าย “LDH JAPAN” ที่วงสังกัดอยู่และค่ายเพลงไทยอย่าง “HIGH CLOUD ENTERTAINMENT” ทางวงจะเริ่มทำกิจกรรมภายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปเป็นเวลาครึ่งปี
นอกจากสมาชิกทั้ง 7 คนจะมีความสามารถทั้งด้านการร้องและการเต้นแล้ว พวกเขายังมีความสามารถด้านการเต้นอะโครบาติก (Acrobatic Dance) อีกด้วย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถภาพทางร่างกายอันยอดเยี่ยมที่จะช่วยตอกย้ำว่าวงการบันเทิงของญี่ปุ่นนั้นไม่เป็นสองรองใครในระดับโลก
และก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมาทำกิจกรรมที่ประเทศไทย เรามาฟังความในใจของพวกเขากันดีกว่า!
PROFILE
ศิลปินกลุ่มที่มีสมาชิก 7 คน เริ่มจากซ้าย มาซาฮิโระ สุนาดะ, โยชิยูกิ คะโน, ริวเซ ไคนุมะ, ริวตะ ฮิดากะ, ริกิยะ โอคุดะ, มิคุ ฟุคาโฮริ และ ริกิ มัตสึอิ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2018 และปล่อยอัลบั้มเดบิวต์อัลบั้มแรกภายใต้ชื่ออัลบั้ม “BALLISTIK BOYZ” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.2019 สมาชิกทั้ง 7 คนทำการแสดงโดยทั้งร้อง เต้น และแร็พ แสดงความสามารถในการเป็นโวคอลกรุ๊ปอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถเต้นอะโครบาติกได้อีกด้วย
ซิงเกิ้ลลำดับที่ 5 ซิงเกิ้ลล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาในปีนี้!
“LAST DANCE NI BYE BYE” (ラストダンスに BYE BYE)
เพลงไตเติ้ลเป็นแนวเพลงป๊อปที่มีความย้อนยุค ชวนให้นึกถึงความรักข้างเดียวที่ไม่สมหวัง และเสียงเปียโนในเพลงนี้ที่ไม่ว่าใครได้ฟังก็ต้องอิน นอกจากนั้นยังมีเพลง “Milk&Coffee” และ “WAVIN”” ด้วย
CD+DVD ราคา 3,200 เยน (รวมภาษี)
CD 1,400 เยน (รวมภาษี)
วงน้องอย่าง “PSYCHIC FEVER” ก็จะมาทำกิจกรรมในประเทศไทยด้วยนะ!
“PSYCHIC FEVER” วงที่เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักเต้นผู้คอยสนับสนุนศิลปินในค่าย LDH และจะเดบิวต์อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฏาคม ปี 2022 นี้ พวกเขาจะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อทำกิจกรรมพร้อมกับ BALLISTIK BOYZ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ติดตามและเป็นกำลังใจให้ PSYCHIC FEVER ได้ทาง www.facebook.com/psyfe.official
“กิจกรรมในครั้งนี้ คืออีกก้าวสำคัญที่จะทำให้แต่ละคนไปถึงฝัน”
รู้สึกอย่างไรตอนที่รู้ว่าจะมีโปรเจกต์และต้องเดินทางมาเมืองไทย
มิคุ ฟุคาโฮริ : การทำกิจกรรมในต่างประเทศต้องหยุดชะงักไปเพราะโควิด-19 และในที่สุดก็สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่อได้อีกครั้ง เพราะนี่เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้พวกเราเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ นั่นคือการได้ก้าวสู่ระดับโลก ผมเลยรู้สึกตั้งตารอคอยมาก ๆครับ
มาซาฮิโระ สุนาดะ : ผมทั้งดีใจที่จะได้กลับไปทำกิจกรรมในสถานที่จริง ๆ และรู้สึกอยากไปประเทศไทยไวไวแล้วครับ
ริวเซ ไคนุมะ : แค่คิดว่าจะได้ก้าวไปสู่ระดับสากลก็รู้สึกตื่นเต้นด้วยความดีใจแล้วครับ
ริกิ มัตสึอิ : ดีใจมากครับที่ในที่สุดวงก็ได้เริ่มขยับไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้
โยชิยูกิ คะโน : 2 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้เลย ผมก็เลยรู้สึกร้อนรนตอนที่รู้ว่าการออกไปผจญภัยในโลกกว้างนั้นหยุดชะงักไป แต่พอได้ยินว่าจะมีโปรเจกต์ที่ประเทศไทย มันทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ครับ
ริกิยะ โอคุดะ : พอรู้ว่าจะมีโปรเจกต์ที่ประเทศไทยก็ตื่นเต้นมากครับ รู้สึกมุ่งมั่นว่าจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้!
ริวตะ ฮิดากะ : ตอนที่รู้ว่าจะมีโปรเจกต์นี้ก็พอดีกับตอนที่ผมคิดว่าอยากให้ปี 2022 นี้เป็น “ปีแห่งความท้าท้าย” เลยครับ จะได้ออกเดินทางไปต่างประเทศตามที่เฝ้ารออย่างใจจดจ่อแล้ว อีกทั้งระยะหลังมานี้ได้ยินมาว่าวงการบันเทิงของประเทศไทยเฟื่องฟูมาก เลยอยากให้คนไทยรับรู้ถึงพลังของพวกเราทุกคน อยากให้ทุกคนได้เห็นศักยภาพของพวกเราครับ
มาซาฮิโระ สุนาดะ (MASAHIRO SUNADA)
โยชิยูกิ คะโน (YOSHIYUKI KANOU)
ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ พวกเราก็ยังคงมีเป้าหมายเช่นเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยครับ
ครบรอบเดบิวต์ 3 ปีแล้ว มีความตั้งใจอยากจะทำกิจกรรมที่ต่างประเทศตั้งแต่แรกเลยไหม
ริกิ มัตสึอิ : ตั้งแต่ที่เริ่มฟอร์มวง สมาชิกทุกคนก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องมี “Stadium Tour ระดับโลก” ให้ได้ และตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ พวกเราก็ยังคงมีเป้าหมายเช่นเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยครับ
ริกิยะ โอคุดะ : แน่นอนครับ! เราตั้งใจไว้แบบนั้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะผม มิคุ และมาซาฮิโระซึ่งเคยไปเรียนที่นิวยอร์ก เราเลยตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต่างประเทศมาโดยตลอดครับ
ริวตะ ฮิดากะ : ผมคิดว่าการเดินทางไปโปรโมทที่ต่างประเทศ ความสามารถคือเรื่องสำคัญ แน่นอนว่าต้องเพิ่มทักษะทั้งการร้องและการเต้น รวมถึงการเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วย ผมจึงใช้ชีวิตแบบนั้นทุกวันในขณะที่คิดว่าจะต้องก้าวไปสู่ระดับสากลให้ได้ ตอนนี้ก็เริ่มเรียนภาษาไทยสำหรับโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยครับ
ระหว่างที่ทำกิจกรรมในประเทศไทย มีอะไรที่อยากทำไหม
มาซาฮิโระ สุนาดะ : อยากทำความรู้จักและเป็นเพื่อนกับนักร้อง แร็พเปอร์ แดนเซอร์ หรือศิลปินไทย อยากทำงานร่วมกันกับพวกเขาครับ
ริวเซ ไคนุมะ : ถ้านอกเหนือจากกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีแล้วล่ะก็ อยากกินอาหารไทยครับ! แล้วก็… ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามและคลินิกมาเยอะ เลยอยากจะไปศึกษาดูซะหน่อยครับ
โยชิยูกิ คะโน : แน่นอนว่าอยากจะแสดงไลฟ์ หรือไม่ก็คอลแลบส์กับศิลปินหลาย ๆ คนที่ประเทศไทยครับ! แล้วก็อยากไปเทศกาลลอยโคมที่เป็นต้นแบบให้กับฉายลอยโคมในแอนิเมชั่นของดิสนีย์อย่างเรื่องราพันเซลด้วยครับ
ริวตะ ฮิดากะ : แน่นอนว่าผมอยากจะลองใช้ชีวิตที่ไทยครับ บรรยากาศของเมืองไทยที่แตกต่างไปจากที่ญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ นอกจากเรื่องงานและเรื่องการฝึก การได้ท่องเที่ยวในไทย ได้ไปเห็น ไปสัมผัสในสิ่งที่ไม่อาจเจอได้เหมือนตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น น่าจะมีประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เก็บเกี่ยวอีกเยอะเลยล่ะครับ!
ริวเซ ไคนุมะ (RYUSEI KAINUMA)
ริวตะ ฮิดากะ (RYUTA HIDAKA)
ท่ามกลางเพลงรักเศร้า ๆ การเต้นอย่างพร้อมเพรียงก็ถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของวงเราครับ
สิ่งที่อยากจะแนะนำเกี่ยวกับเพลงใหม่อย่าง “LAST DANCE NI BYE BYE” (ラストダンスに BYE BYE)
ริกิยะ โอคุดะ : สำหรับมิวสิควิดีโอเพลงนี้ พวกเราเปิดด้วยการเต้นเหมือนเช่นเคย นอกจากนี้ ยังมีฉากที่ทำให้พวกเราเข้าใจถึงจุดแข็งด้านการเต้นของแต่ละคนได้มากยิ่งขึ้นด้วยครับ ทุกคนเต้นพร้อมเพรียงกันมาก ต้องลองไปดูกันนะครับ!
โยชิยูกิ คะโน : การถ่ายทำซีนเต้นตั้งแต่แรกจนจบนั้นใช้พลังกายเยอะมากเลยครับ ท่ามกลางเพลงรักเศร้า ๆ การเต้นอย่างพร้อมเพรียงก็ถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของวงเราเหมือนกันครับ
ริวตะ ฮิดากะ : เพราะสมาชิกทุกคนทั้งร้องและเต้นได้อยู่แล้ว ผมเลยรู้สึกว่าตอนที่ถ่ายทำมันผ่านไปไวมาก อยากให้ทุกคนคอยสังเกตท่าเต้นที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและกรูฟที่เป็นหนึ่งเดียวกันครับ
อยากให้คนไทยสนุกกับเพลงของวง BALLISTIK BOYZ
มาซาฮิโระ สุนาดะ : เพลงของพวกเราเป็นการผสมผสานระหว่าง J-POP และซาวน์ดนตรีที่มีความอินเตอร์ครับ นอกจากนี้ แต่ละเพลงจะมีการใช้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ แล้วถ่ายทอดออกมาด้วยการร้องในสไตล์ของพวกเรา ถ้าทุกคนฟังแล้วรู้สึกสนุกไปกับพวกเราก็คงดีไม่น้อยเลยครับ
ริวเซ ไคนุมะ : เพลงที่ทำออกมาในช่วงหลังนั้น ทีมที่มาช่วยโปรดิวซ์ทำนองให้มาจากหลากหลายประเทศเลยครับ นอกจากทำนองแล้ว ผมก็อยากให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความจริงจังในการเต้นของพวกเราด้วย อยากให้ทุกคนสนุกไปกับทั้งการร้องและเต้นของพวกเราครับ! ส่วนเพลงที่อยากแนะนำให้ลองฟังก็คือเพลง “All Around The World” และ “LAST DANCE NI BYE BYE” ครับ
โยชิยูกิ คะโน : เพลงของพวกเราจะเป็นแนวฮิปฮอปซะเยอะครับ แต่ผมเองก็รอที่จะได้ทำเพลงแนวอื่น ๆ อย่างการได้ร้องเพลงสไตล์บัลลาดอย่างจริงจังดูเหมือนครับ ผมคิดว่าทุกคนจะสามารถสนุกไปกับพวกเราได้มากยิ่งขึ้นผ่านการแสดงไลฟ์ครับ เพราะฉะนั้นเวลาที่ได้มาเจอกันก็อยากให้ทุกคนสนุกไปด้วยกันครับ! แล้วก็นะ ผมว่าแฟนชาวไทยน่าจะต้องชอบเพลง “Animal” ด้วยแน่ ๆ
ริกิยะ โอคุดะ (RIKIYA OKUDA)
มิคุ ฟุคาโฮริ (MIKU FUKAHORI)
ริกิ มัตสึอิ (RIKI MATSUI)
สุดท้ายนี้ ฝากข้อความถึงแฟน ๆ ชาวไทยหน่อย
ริกิยะ โอคุดะ : การเดินทางครั้งใหม่ของพวกเราทั้ง 7 คนกำลังจะเริ่มต้นที่ประเทศไทย ประเทศของพวกคุณทุกคนครับ กิจกรรมที่ไทยครั้งนี้จะเป็นงานใหญ่สำหรับทั้งตัวผมเองและสำหรับวงด้วย ผมรอคอยที่จะได้พบกับทุกคนและได้ใช้เวลาดี ๆ ร่วมกันนะครับ
ริวเซ ไคนุมะ : ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ตลอดระยะเวลาครึ่งปี เราจะทำกิจกรรมอยู่ที่ประเทศไทยเป็นหลัก อย่างแรกเลยเราจะได้เรียนวัฒนธรรมไทย หลังจากนั้นพวกเราจะหาโอกาสไปพบกับทุกคนให้ ดังนั้น ช่วยรอดูและเป็นกำลังใจให้พวกเราที่กำลังตั้งใจพัฒนาตัวเองกันด้วยนะครับ!
โยชิยูกิ คะโน : จากนี้พวกเราจะพยายามแจกความสดใสผ่านผลงานต่าง ๆ ให้มากขึ้น แค่ทุกคนสนใจฟังเพลงหรือดูมิวสิควิดีโอของพวกเรา เพียงแค่นั้น ผมก็ดีใจแล้วครับ!
มาซาฮิโระ สุนาดะ : ผมตั้งตารอมาก ๆ กับการได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทย และเพื่อที่จะได้เติบโตไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ การได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของไทยนั้น ผมจะพยายามพัฒนาผลงานเพลงไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นพวกเราในสไตล์ใหม่ ๆ และเพื่อจะได้รับความรักจากทุก ๆ คนครับ
ริวตะ ฮิดากะ : ด้วยโอกาสในครั้งนี้ เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างบรรยากาศให้วงการดนตรีไทยมีชีวิตชีวามากขึ้น และกลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทย ในเอเชีย และในระดับโลกครับ หากพวกเรามีโอกาสได้แสดงไลฟ์ในไทย แล้วทุกคนมาให้กำลังใจ ผมจะดีใจมากครับ!
มิคุ ฟุคาโฮริ : ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ผมจะเดินทางไปยังประเทศของทุกคน เพื่อมุ่งหน้าสู่ระดับอินเตอร์ครับ ต่อจากนี้ ช่วยสอนสิ่งต่าง ๆ ให้ด้วยนะครับ!
ริกิ มัตสึอิ : ตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาไทยซึ่งยากมากเลยครับ แต่ผมจะพยายามเพื่อที่จะได้สื่อสารกับทุกคนได้ แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี และประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกสำหรับการก้าวสู่ระดับอินเตอร์ของพวกเรา ผมจึงอยากจะเติบโตและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่หาไม่ได้ที่ประเทศญี่ปุ่นครับ
ติดตามและเป็นกำลังใจให้ BALLISTIK BOYZ from EXILE TRIBE ได้ทาง
Website | Facebook | Instagram | Twitter | Youtube
และติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ “Special Interview : BALLISTIK BOYZ from EXILE TRIBE” พาร์ท 2 คลิก