Drive trips in Japan 2


 “ขับรถเที่ยว ตะลุยนางาโน่”


  • Drive trips in Japan 2 ลุยเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ♥ 


  • สั่นระฆังที่ Utsukushigahara ♥ 


  • พิชิตเส้นทาง Venus Line ♥


  • เที่ยว Museum Art ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา ♥


  • ก่อนเข้านอน เซลฟี่กับปราสาทมัตสึโมโต้ยามค่ำคืน..!!



ความเดิมตอนแรก ใครยังไม่ได้อ่าน ไปอ่านก่อนนะ..♥

Drive Trips in Japan ทริปนี้ดี มีรถขับเที่ยว#1

  • Drive trips in Japan 2 ทริปวันที่ 2 ของการเดินทาง…

***หมายเหตุ***  (ชื่อสถานที่ ที่ปรากฏในบทความนี้ สามารถคลิ๊กเพื่อเปิดลิ้งก์ได้เลยนะ…)

เมื่อคืนหลังจากแช่ออนเซ็นในบ่อกลางแจ้ง แช่ไปชมดาวไป กับอากาศที่แสนเย็นจนเกือบหนาว แต่หัวใจกลับอบอุ่น (เพราะเราแช่น้ำร้อนอยู่ไงล่ะ…) เราก็เลยตื่นเช้าด้วยความสดใสมากๆ เช้าวันนี้เราเปิดทริปด้วยชุดอาหารเช้าแบบไคเซกิ อลังการอีกเช่นเคย อาหารเช้าเซ็ตนี้มีความโดดเด่นที่เมนู เต้าหู้หม้อไฟ เต้าหู้ที่นี่ใช้วิธีการทำแบบโบราณ ไม่ใช้เครื่องจักรในการผลิต จึงทำให้ได้เต้าหู้ที่มีความหอม และนุ่มละมุนลิ้น เสริฟพร้อมกับเครื่องเคียงแบบจัดเต็ม กินอิ่มแล้วเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม Sosen no yado Suhaku Ryokan แล้วเดินทางต่อ

 

ชุดอาหารเช้า แบบไคเซกิ
ชุดเมนูอาหารเช้าจัดเซ็ต ไคเซกิ มาสวยงามน่ากินมากๆ

เต้าหู้หม้อไฟของเรียวกัง
เมนูเต้าหู้หม้อไฟ

ระหว่างทาง เราแวะถ่ายรูปชมวิว ที่ทะเลสาป Suwa แถวๆประตูระบายน้ำ ก่อนจะเข้าไปที่ยวชมโรงงานทอผ้า Okaya Silk Museum ที่เปิดมานานกว่าร้อยปี ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติตั้งแต่เริ่มการก่อตั้งโรงงาน ไปจนถึงมีเครื่องไม้เครื่องมือตั้งแต่ยุคแรก จนยุคปัจจุบัน ถัดจากห้องที่เป็นเครื่องทอผ้าแบบโบราณแล้ว อีกห้องจะเป็นการสาธิตวิธีการทอผ้า แล้วร้อยเรียงเส้นใยไหม แบบดั้งเดิมอีกด้วย ที่โรงงานทอผ้า Okaya Silk Museum ไม่ได้มีแต่ตัวโรงงานให้เที่ยวชมอย่างเดียว ที่นี่ยังมีเวริค์ช็อป “Mayu-chan Studio” Workshop ให้เราได้เรียนรู้และเอาวัสดุเหลือใช้มาทำงานประดิษฐ์ได้อีกด้วย…

 

วิวทะเลสาป Suwa
วิวทะเลสาป Suwa

วิวทะเลสาป Suwa
อีกด้านของ วิวทะเลสาป Suwa

วิวทะเลสาป Suwa
วิวทะเลสาป Suwa มีจุดให้นั่งชมวิว ชมภูเขาสวยๆ สามารถมานั่งปิคนิคที่นี่ก็ได้นะ

Okaya Silk Museum
บริเวณหน้าทางเข้า พิพิธภัณฑ์ โอคายะ

เครื่องปั่นไหม เครื่องแรก
ด้านซ้ายมือ เป็นเครื่องปั่นไหมรุ่นแรกของที่นี่ ยังถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีเลย

วิวัฒนาการเครื่องปั่นไหม
มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของเครื่องปั่นไหม จากเดิมที่คนเดียว คุม 1 เครื่อง ปัจจุบัน ใช้เจ้าหน้าที่คนเดียว คุมได้เป็นร้อยเครื่อง

การนำรังไหมกลับมาใช้ประโยชน์
รังไหมที่ปั่นเอาใยไหมออกจนหมดแล้ว เอากลับมาใช้ทำของฝาก ของชำร่วยได้อีกต่างหาก

ขับย้อนมาอีกหน่อย เราเลือกไปดูหอนาฬิกาโบราณ Gishodo Suwako Watch & Clock Museum ที่มีขนาดเท่าตึกสามชั้น อาศัยพลังงานกังหันน้ำและระบบเฟืองที่ทำจากไม้ ด้านบนเป็นหอดูทิศทางของดวงดาว ส่วนในอาคารจัดแสดงนาฬิกาโบราณหลายรูปแบบ แสดงให้เห็นถึงการวิวัฒนาการมายังไง ระบบด้านในทำงานได้อย่างไร มีฐานเรียนรู้ให้ได้ทดลองเล่น รวมถึงมีเวริค์ช็อปทำนาฬิกาด้วยตัวเอง และสามารถนำกลับบ้านได้ด้วย

หอนาฬิกาโบราณ
หอนาฬิกาโบราณ มีทั้งหมด 3 ชั้น จะเห็นว่ามีตุ๊กตา ถือป้ายหมุนวนไปเรื่อยๆ ป้ายตัวนี้จะบอกว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่ น่ารักดีนะ

หอนาฬิกาโบราณ
หอนาฬิกาโบราณนี้ ใช้พลังงานน้ำ ในการขับเคลือนเฟืองและกลไกต่างๆ ส่วนที่เห็นเป็นการจำลองวิถีการหมุนอุปกรณ์ที่ใช้ดูดวงดาว

Gishodo Suwako Watch & Clock Museum
ด้านในอาคารพิพิธภัณฑ์นาฬิกา Gishodo Suwako Watch & Clock Museum

Gishodo Suwako Watch & Clock Museum
ด้านในพิพิธภัณฑ์ Gishodo Suwako Watch & Clock Museum

ถัดจากหอนาฬิกา เดินไม่ไกลก็จะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าใหญ่แต่ระหว่างเดินไปศาลเจ้า เราเห็นคนต่อแถวยาวออกมาล้นร้าน จึงอยากรู้ว่าที่ร้านนี้เขาขายอะไร ทำไมคนถึงเยอะนัก เข้าไปดูเป็นร้านขนมโบราณ ที่ยังคงเอกลักษณ์ และยังคงใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้เป็นที่ขึ้นชื่อ มีคนมารุมซื้อกันทุกวัน ขนมโบราณมีหน้าตาคล้ายๆวุ้นใสๆ หยุ่นๆ ไม่ถึงกับเหนียว ชื่อเรียกขนมนี้ว่า โยกัง ส่วนใหญ่ทำขึ้นจากถั่ว มีรสหวานจัด ต้องกินกับชาเขียวจะดีมากเลยจริงๆ (โยกังที่นี่มีรสเกลือด้วย แต่จะหวานน้อยกว่า) ใครตามรอยไป ก็ลองแวะชิมได้นะ ที่ร้าน Shintsuruhonten อยู่ก่อนถึงศาลเจ้าใหญ่ แค่นิดเดียว

Shintsuruhonten
ภายในร้านขนมโบราณ Shintsuruhonten

Shintsuruhonten
ขนมโยวกัง (ให้ชิมฟรี) ใจก็อยากจะชิมให้หมดเหมือนกันนะ

เดินจากร้านขนมมาโค้งเดียวก็เจอแล้ว กับศาลเจ้าใหญ่ Suwataisha,Shimosha ในสมัยก่อนที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านการล่าสัตว์ และการทำการเกษตร ปัจจุบันมีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้ช่วยดูแลปกป้องประเทศญี่ปุ่นด้วย ทุกๆ 7 ปีศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีการจัดงานเทศกาลเปลี่ยนเสาหลักหรือที่เรียกเทศกาลนี้ว่า Onbashira Matsuri (เป็นเทศกาลที่คนญี่ปุ่น ทำพิธีตัดต้นไม้ใหญ่แล้วขี่ท่อนไม้ลงมาจากภูเขา จากภูเขาจะใช้แรงงานคนเท่านั้น ผลัดกันแบกท่อนไม้ที่จะใช้มาจนถึงศาลเจ้าแห่งนี้ พิธีกรรมนี้เป็นเทศกาลที่ขึ้นชื่อมาๆ ของนากาโน่ด้วยเช่นกัน)

Shimosha Akimiya
Suwa Taisha (ศาลเจ้าใหญ่) Shimosha Akimiya หนึ่งในสี่ของศาลเจ้า Suwa

Suwa Taisha (ศาลเจ้าใหญ่) Shimosha Akimiya
อีกด้านของศาลเจ้า Suwa Taisha มีคนมาขอพรอย่างต่อเนื่อง

 

Suwa Taisha (ศาลเจ้าใหญ่) Shimosha Akimiya
Suwa Taisha (ศาลเจ้าใหญ่) Shimosha Akimiya

Suwa Taisha (ศาลเจ้าใหญ่) Shimosha Akimiya
ทางเข้า ทางออก ของศาลเจ้าใหญ่ Suwa Taisha

หลังจากไหว้ขอพรกันแล้ว เราเดินต่อลงมาจากศาลเจ้าไม่ไกล ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี SuwanoNe Orgel Museum ที่นี่มีกล่องดนตรีเยอะมากๆ ทั้งรุ่นเก่าที่ทำจากไม้ทั้งหมด รวมถึงกล่องดนตรีรุ่นใหม่ๆ รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่มีหมดเลย บริเวณชั้นสองมีพื้นที่เป็นส่วนเวทีแสดงโชว์ ซึ่งมีการแสดงโชว์เป็นรอบๆ เสียดายที่เรามาไม่ทันรอบการแสดงก็อดดูไปตามระเบียบ และถ้าใครอยากได้กล่องดนตรีที่ทำด้วยมือของตัวเองที่นี่ ก็มีเวริค์ช็อปให้เลือกลงมือทำด้วยตัวเอง แล้วนำกลับไปเป็นของฝากได้เลย..

กล่องดนตรีประเภทต่างๆ
กล่องดนตรีหลากหลายรูปแบบ และมาจากหลายประเทศ

suwanone museum
ส่วนพื้นที่สำหรับ เวริค์ช็อป ทำกล่องดนตรี

suwanone museum
กล่องดนตรีบางชิ้น สามารถทดลองเล่นได้

ออกจากร้านกล่องดนตรี เราวางแผนไปขับรถชมวิวที่ถนน Venus Line ถนนเส้นนี้ขึ้นชื่อมากๆ เรื่องวิวสองข้างทางและจุดพักรถบนยอดเขา ด้วยระยะทางรวม 76 กม. ลัดเลาะไปตามภูเขา Tateshina, Kurumayama และ Utsukushigahara แล้วก็ไม่ผิดหวัง สองข้างทางสวยงามมากจริงๆ ขับสิบรอบก็ไม่เบื่อ ช่วงที่ดีที่สุดของการเดินทางเส้นทางนี้ คือช่วงเดือน กรกฏาคม-สิงหาคม ขับชมวิวไปเรื่อย เราไปแวะพักชมวิวที่ Utsukushigahara Open Air Museum เป็นแกลลอรี่ศิลปะกลางแจ้ง ส่วนใหญ่เป็นงานปั้น และงานจัดวาง พอมาอยู่กับธรรมชาติและวิวภูเขา 360 องศาแล้ว งานศิลปะเหล่านี้ก็สวยไปอีกแบบ ช่วงที่ขับรถชมวิวลงมาเรื่อยๆ ยิ่งช่วงที่กลับลงมานั้น เป็นเวลาพระอาทิตย์ตก ยิ่งทำให้ถนนเส้นนี้สวยและมีเสน่ห์มากจริงๆ

Drive trip in Japan 2
ระหว่างทางไปยังพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง utsukushi-ga-hara-open-air-museum

Drive trip in Japan 2
วิวสวย ถนนสวย ขับได้เพลินๆ มีช่วงโค้งขึ้นเขาประมาณนึง ขับขึ่ด้วยความระมัดระวังกันนะ

Drive trip in Japan 2
Drive trip in Japan 2 ถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี น่าจะสวยมากๆเลยทีเดียว

Drive trip in Japan 2
โชคดีมากๆ ช่วงที่เราขับรถขึ้นมา ฟ้าใสสุดๆ

 

Drive trip in Japan 2
Drive trip in Japan 2 ขับมาเรื่อยๆ ก็ถึงแล้ว THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM

งานศิลปะกลางแจ้ง ที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
ที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM มีงานศิลปะกลางแจ้ง ตั้งอยู่เต็มไปหมด

งานศิลปะกลางแจ้ง ที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
งานศิลปะกลางแจ้ง ที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM

จุดชมวิวที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
ที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM มีจุดชมวิวที่สวยมากๆอีกด้วยนะ

จุดชมวิวที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
จุดชมวิวที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM มานั่งจุ๋งจิ๋งกับคนรู้ใจ ก็คงจะดีเนอะ

ของกิน ของฝาก และร้านอาหารเพียบที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
ที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM มีของกิน ของฝาก และร้านอาหารเพียบ ไม่ต้องกลัวจะอดนะ

วิวลานจอดรถที่ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
อันนี้คือบริเวณลานจอดรถนะ วิวดีงามพระรามแปดมากๆ

อีกด้านของ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
เดินถัดจากอาคาร ที่ขายของฝาก จะเป็นทุ่งโล่งกว้างๆ มุ่งหน้าไปยังหอระฆังเพื่อขอพรกัน

อีกด้านของ THE UTSUKUSHI-GA-HARA OPEN MUSEUM
ระหว่างทาง จะเห็นว่าที่ทุ่งกว้างๆ มีม้าแคระวิ่งมั่ง นอนมั่ง อยู่หลายตัวเลย

เดินกันทั้งวันจนเมื่อขา ขับรถลงมาถึงตัวเมืองก็มืดค่ำพอดี มาถึงโรงแรมที่พัก คืนนี้เราแวะพักที่โรงแรม Buena Vista Hotel หลังจากเก็บสัมภาระแล้ว แล้วก็ไปหาข้าวเย็นกินกัน… เราเลือกเข้าร้าน Shiduka เป็นร้านอาหารแนว Izakaya เลือกมาลองชิมกันหลายเมนู จิ้มๆ ชี้ๆกันไป อาหารมาเต็มโต๊ะ เจ้าของร้านอัธยาศัยดี และเหล้าบ๊วยอร่อยมากกกกกก …. อิ่มท้องแล้ว ก่อนกลับโรงแรม เราสามารถเดินไปเที่ยวชมบรรยากาศ รอบๆปราสาทมัตสึโมโต้ ยามค่ำคืนได้ด้วยโดยไฟจะเปิดทุกวัน ยาวไปจนถึง 4 ทุ่ม ปราสาทมัตสึโมโต้ยามค่ำคืนสวยงามไปอีกแบบ ยิ่งถ้าฟ้าเปิดแล้วมีดาวสวยๆจะฟินกว่านี้อีก

อาหารสไตล์ อิซากายะ ที่ร้าน shiduka
อาหารสไตล์ อิซากายะ ที่ร้าน shiduka อร่อยและเป็นกันเองสุดๆ

Drive trip in Japan 2
ปิดท้ายทริปวันนี้ด้วย วิวยามค่ำคืนที่ปราสาท มัตสึโมโต้

Drivetrips-in-japan ทริปนี้ยังอีกยาวไกล พรุ่งนี้จะไป อุทยาน คามิโคจิ (Kamikochi) เที่ยวเมือง Gifu มุดถ้ำฮิดะ (Hida Daishou Nyudo) เที่ยวย่านเมืองเก่า Takayama จะสนุกสนานแค่ไหน โปรดติดตาม ตอนต่อไปด้วยนะ

views