PSYCHIC FEVER และ DVI กับการไล่ตามความฝันและการพุ่งทะยานสู่ To The Top
หลังจากปล่อยซิงเกิ้ลเพลง “To The Top” ให้ได้ฟังกันไปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2023 PSYCHIC FEVER (ไซคิกฟีเวอร์) จากค่าย LDH ประเทศญี่ปุ่น และ DVI (ดี-วาย) จากค่าย 4NOLOGUE พร้อมทะยานสู่เป้าหมายสูงสุดไปอีกขั้นกับมิวสิควีดีโอเพลง To The Top ที่ปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้รับชมเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำหรับซิงเกิ้ลเพลง “To The Top” เป็นผลงานเพลงที่ ไซคิกฟีเวอร์ และ ดี-วาย ได้ร่วมงานกันครั้งแรก และยังเป็นการถ่ายทำมิวสิควีดีโอครั้งแรกในเมืองไทยของ ไซคิกฟีเวอร์ อีกด้วย โดย HIGH CLOUD ENTERTAINMENT ได้จับมือกับ LDH JAPAN ในการร่วมสร้างสรรค์ผลงานครั้งสำคัญให้วงการเพลงเอเชียนป็อปโดยการผสมผสานสองวัฒนธรรมดนตรี J-Pop และ T-Pop เข้าด้วยกัน และได้ “NINO” (นีโน่-เกริก ชาญกว้าง) เจ้าของรางวัล Producer Of The Year ถึง 3 สมัยจาก RAP IS NOW AWARDS มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ เพื่อนำเสนอพลังของคนรุ่นใหม่ผ่านเพลงสไตล์ฮิปฮอป ผสมผสานกับอาร์แอนด์บีและป็อปที่ให้ความรู้สึกสนุกสนานและเข้ากันได้ดีกับสไตล์ของศิลปินทั้งสองวง
ดาโกะเองมีโอกาสได้ร่วมชมมิวสิควิดีโอในวันเปิดตัวร่วมกับ ไซคิกฟีเวอร์ และ ดี-วาย ด้วย เลยนำบทสัมภาษณ์และบรรยากาศในวันงานเปิดตัวมาฝากกัน!
อีกก้าวของการไล่ตามความฝันกับการมุ่งสู่ระดับโลก
ความท้าทายในการทำเพลงภาษาอังกฤษและภาษาไทย
- รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับ DVI เป็นครั้งแรก?
เรียวกะ นาคานิชิ: นี่เป็นการร่วมงานกับศิลปินไทยเป็นครั้งแรกของไซคิกฟีเวอร์ และด้วยความที่พวกเรากับดี-วายมีอายุใกล้เคียงกัน รวมทั้งมีเป้าหมายเดียวกัน เราจึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน โดยในขณะที่อัดเสียง รวมถึงตอนซ้อมบรรยากาศก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน ผมจึงดีใจมาก ๆ ที่ได้ร่วมทำเพลงกับทุกคนในดี-วายครับ
เรียวกะ นาคานิชิ (เรียวกะ)
- ครั้งแรกที่ได้พบกับ รู้สึกประทับใจอะไรเป็นพิเศษ
วีสะ: ตอนที่พวกเราได้พบกันเป็นครั้งแรก เราสามารถสนิทกันได้ในทันทีเลยครับ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเราอายุใกล้เคียงกันครับ
- ความท้าทายใหม่ ๆ หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 วง
โคโคโระ โคฮัตสึ: รู้สึกว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ต้องร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยที่ไม่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเลย นี่จึงถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับพวกเราทั้ง 13 คน ยังไงก็ตาม ถึงมันจะค่อนข้างยาก แต่ระหว่างที่อัดเพลงและถ่ายทำมิวสิควิดีโอ พวกเราก็สามารถจินตนาการถึงผลงานที่จะออกมาเสร็จสมบูรณ์ได้ครับ
- ช่วยเล่าเกี่ยวกับคอนเซ็ปท์ของเพลง To The Top ให้ฟังหน่อย
โคโคโระ โคฮัตสึ: ตามชื่อเพลง เลยครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่มีจุดสูงสุดเป็นเป้าหมาย ผมอยากจะส่งต่อเพลงนี้ไปยังผู้ฟังไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น แต่ยังรวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ในเอเชียและทั่วโลกด้วยครับ
โคโคโระ โคฮัตสึ (โคโคโระ)
- รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับ F.HERO และ NINO
จิมมี่: คุณ F.HERO และ คุณ NINO ทั้งคู่ใจดีมากๆ และค่อนข้างสนิทกับพวกเราครับ สำหรับคุณ F.HERO นั้นเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับฮิปฮอปของไทยดีมากๆ และในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วย เขามักจะแนะนำเราหลายอย่างเลยครับ เช่น ‘ถ้าเป็นในไทย ทำแบบนี้ดีกว่านะ’ หรือ ‘ทำแบบนี้สิจะได้สื่อความหมายได้ดีมากขึ้น’ เป็นต้น ส่วนคุณ NINO มีความปรารถนาที่จะพิชิตความฝันของเขาเหมือนกับพวกเรา สิ่งนั้นจึงถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเนื้อเพลงและจังหวะเพลงครับ พวกเรารู้สึกมีความสุขมาก ๆ ครับที่ได้ทำเพลง To The Top กับทั้ง 2 ศิลปิน
อยากให้ผู้ฟังได้สนุกไปกับเพลงทั้งผ่านการฟังและการดู
- ท่อนที่ชอบมากที่สุดคือท่อนไหน
ซึรุกิ: สำหรับตัวผมเอง ผมชอบซีนเต้นมาก ๆ ผมอยากให้ผู้ฟังได้สนุกไปกับเพลงทั้งผ่านการฟังและการดู ด้วยความที่วงเรามีการเต้นเป็นอาวุธ เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความสนุกและเพลิดเพลินไปกับการเต้นแบบที่พวกเรารู้สึกครับ
ซึรุกิ
เรียวกะ นาคานิชิ: นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราถ่ายทำมิวสิควิดีโอกันในสตูดิโอที่มีการเซ็ตฉากไว้ และในฉากก็มีกราฟิตี้ชื่อวงอยู่ด้วย ผมเลยรู้สึกประทับใจมาก ๆ ครับ และผมจะยินดีมาก ๆ ถ้าทุกคนได้ดูมิวสิควิดีโอเพลงนี้กัน
- แล้วเนื้อเพลงท่อนที่ชอบที่สุดล่ะ
โคโคโระ โคฮัตสึ: ท่อนที่ผมชอบที่สุดคือท่อน ‘Everything’s good~ I’m at the top’ ครับ ไม่เพียงแค่ความหมายของเนื้อเพลงที่ดีเท่านั้น แต่เมโลดี้ท่อนนี้ยังเพราะมาก ๆ ด้วยครับ คิดว่าเป็นท่อนที่ทุกคนจะเพลิดเพลินและอินไปกับเพลงได้ ลองฟังกันดูนะครับ
มันคงจะดีหากทุกคนที่ได้ฟังเพลงของพวกเราแล้วคิดว่า “อยากจะทำให้ดีที่สุดเพื่อความฝันและเป้าหมายของตนเอง”
- ตอนที่อัดเสียงได้อัดพร้อมกันทั้ง 13 คนเลยใช่ไหม
จิมมี่: ครั้งนี้ แร็ปเปอร์ทุกคนล้วนต้องรับหน้าที่ที่แตกต่างจากปกติ เช่น ร่วมร้องในเมโลดี้ไลน์ หรืออย่างผมที่ต้องแรปไลน์เบสที่เสียงต่ำซึ่งถือว่าค่อนข้างยาก รวมทั้งจะต้องดึงเอาความเป็นตัวตนของแต่ละคนมาไว้ในเพลง ๆ เดียว จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ๆ ที่จะสร้างเพลงที่ลงตัวและดีที่สุดสำหรับทุกคน ตอนที่อัดเสียงเลยต้องคิดว่า “คนก่อนหน้าร้องแบบนี้ งั้นฉันจะร้องแบบนี้นะ” ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับพวกเราเลยครับ
จิมมี่
- เมื่อได้ดูมิวสิควิดีโอที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว รู้สึกว่าแตกต่างจากตอนที่ถ่ายทำไหม
ริวชิน ฮันดะ: มิวสิควิดีโอที่เสร็จสมบูรณ์แล้วมีส่วนของ CG ที่เพิ่มเข้ามา ผมเลยคิดว่ามันให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากตอนที่ถ่ายทำครับ บรรยากาศมันแตกต่างออกไปจากที่เห็นครั้งแรก เลยคิดว่ามันเจ๋งจริงๆ และคิดว่าเป็นงานที่มีแค่พวกเรา ไซคิกฟีเวอร์ และ ดี-วาย เท่านั้นที่ทำได้ครับ
- ตอนที่ทำเพลง To The Top อยากให้ออกมาเป็นแบบไหน
โคโคโระ โคฮัตสึ: ตั้งแต่ตอนที่อัดเสียงไปจนถึงตอนที่ถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ผมรู้สึกว่าอยากจะถ่ายทอดความตั้งใจของ ไซคิกฟีเวอร์ และ ดี-วาย ที่ต่างก็พยายามมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ ดังนั้น ผมจะดีใจมากหากทุกคนได้ฟังเพลงนี้แล้วคิดว่า “อยากจะทำให้ดีที่สุดเพื่อความฝันและเป้าหมายของตนเอง” ครับ
ริวชิน ฮันดะ
การทำเพลงร่วมกันของพวกเราทั้ง 13 คนในครั้งนี้ ทำให้ PSYCHIC FEVER สามารถถ่ายทอดความกระตือรือร้นและความร้อนแรงออกมาได้ดียิ่งขึ้น
- ทางดาโกะเคยดูการแสดงไลฟ์เพลงนี้ในงาน “SIAM MUSIC FEST 2022” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนธันวาคม 2022 ตอนที่อยู่บนเวทีทุกคนดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากๆ ทั้งการเต้นและฮาร์โมนีในการร้อง เลยอยากรู้ถึงเคล็ดลับในการทำงานร่วมกัน
วีสะ: ถึงแม้จะมีเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลา 3-4 เดือนในการทำเพลงนี้ ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยในด้านต่างๆ มากมาย และมันทำให้พวกเรากับ ดี-วาย สนิทกันมากขึ้น นั่นจึงทำให้เราสามารถแสดงออกมาได้ดีครับ
วีสะ
- การเต้นถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทั้ง 2 วงล้วนมีเสน่ห์ มีท่าเต้นท่าไหนที่คุณอยากจะสอนอีกวงไหม
เร็น วาตานาเบะ: พวกเราเคยลองเต้นเพลง ‘Sugar’ ของ DVI มาแล้วครับ ส่วนเพลงที่อยากจะสอน ดี-วาย เต้นคือเพลง ‘Choose One’ จากอัลบั้มเดบิวต์ของพวกเราครับ
- คอนเซ็ปท์ของ PSYCHIC FEVER คือ “การทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี” และจากการร่วมคอลแลปฯ ในครั้งนี้ คิดว่ามีปฏิกิริยาหรืออะไรไหมที่ทำให้รู้สึกมีพลังมากยิ่งขึ้น
โคโคโระ โคฮัตสึ: หลังจากย้ายมาทำงานที่ประเทศไทยได้ครึ่งปี ประสบการณ์ต่าง ๆ ทำให้ช่วงหนึ่งพวกเราได้มีโอกาสทบทวนสไตล์และการแสดงไลฟ์ของตัวเอง ชื่อวงของพวกเราคือ ‘PSYCHIC FEVER’ ที่มีความหมายว่า ‘กระตือรือร้น’ และผมคิดว่าปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นจากการทำเพลงร่วมกันของพวกเราทั้ง 13 คนในครั้งนี้ ทำให้พวกเราสามารถถ่ายทอดความกระตือรือร้นและความร้อนแรงออกมาได้ดียิ่งขึ้นครับ
เร็น วาตานาเบะ (เร็น)
- สุดท้ายนี้ อยากจะฝากอะไรถึงแฟน ๆ บ้างไหม
โคโคโระ โคฮัตสึ: นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้ร่วมงานกับศิลปินไทย ผ่านเพลง To The Top ซึ่งพวกเราอยากถ่ายทอดความปรารถนาและความตั้งใจที่จะ ‘มุ่งสู่จุดสูงสุด’ และพาเพลงของพวกเราข้ามพรมแดนให้ได้ ไม่ใช่แค่เพียงในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น อยากให้ทุกคนได้ดูมิวสิควิดีโอและฟังเพลงเพราะ ๆ เพลงนี้ แล้วก้าวไปสู่ความฝันและเป้าหมายร่วมกันครับ
ชมมิวสิควิดีโอ
สมาชิกทั้ง 6 คนจากวง DVI (ดี-วาย) ศิลปินไทยจากค่าย 4NOLOGUE ได้แก่ ตั๋ง (ชินดิศ เวียงวิเศษ), สมุย (สมุทร แก้ววัน), อู่อู๋ (ธนภูมิ เศรษฐสิทธิกุล), แฟรงค์ (พลช ชิณวังโส), ป๋อ (ศุภการ จิรโชติกุล) และ ชีต้า (ปิติภัทร ธนสารไพบูลย์)
PSYCHIC FEVER from EXILE TRIBE
จิมมี่, เรียวกะ, วีสะ, โคโคโระ, ริวชิน, เร็น และ ซึรุกิ
ศิลปินกลุ่มล่าสุดจาก Jr. EXILE ค่าย LDH JAPAN ที่มีวงรุ่นพี่อย่าง GENERATIONS, RAMPAGE, FANTASTICS และ BALLISTIK BOYZ from EXILE TRIBE มีความสามารถทั้งการร้อง เต้น แร็พ และบีทบ็อกซ์ มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน คือ จิมมี่, เรียวกะ นาคานิชิ, วีสะ, โคโคโระ โคฮัตสึ, ริวชิน ฮันดะ, เร็น วาตานาเบะ และ ซึรุกิ โดยอัลบั้มเดบิวต์ ‘P.C.F.’ ของพวกเขาได้ปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2022
ติดตามและเป็นกำลังใจให้ PSYCHIC FEVER from EXILE TRIBE ได้ทาง
Website | Facebook | Instagram | Twitter | TikTok | Youtube
ช่างภาพ: sshinyamatsunaga
“ความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพยายามก้าวสู่ระดับโลก ก้าวสู่จุดที่จะพา LDH ไปให้ถึงจุดที่ยังไม่เคยไปถึงมาก่อน” (บทสัมภาษณ์ปี ค.ศ.2022): คลิก
“ร่วมเป็นกำลังใจให้กับ BALLISTIK BOYZ และ PSYCHIC FEVER กับการทำกิจกรรมในเมืองไทย พร้อมรู้จักตัวตนของพวกเขาผ่านรายการ New School Breakin’ กัน!” (บทสัมภาษณ์ปี ค.ศ.2022): คลิก