EXILE 20th ANNIVERSARY EXILE LIVE TOUR 2021 “RED PHOENIX”
หลังจากที่รุกตลาดแฟนคลับชาวไทยมาสักพัก ในที่สุดก็ถึงฤกษ์งามยามดี เราตัดสินใจดูถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 20 ปีของ EXILE จากประเทศไทยผ่าน ABEMA
แน่นอนว่าข้อดีที่เห็นได้ชัดสุดของการที่อาเบมะเริ่มทำการตลาดในต่างประเทศก็คือ เราไม่จำเป็นต้องมุด VPN เพื่อให้ได้ดูคอนเสิร์ตต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในญี่ปุ่น ที่สำคัญ! รายละเอียดต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ยังมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยกำกับ จึงทำให้ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาญี่ปุ่น
หลัก ๆ แล้ว ถ้าเป็นดูคอนเทนต์หรือรายการทั่วไป เราจะสามารถรับชมผ่าน AMEBA ได้ฟรี (ปัจจุบัน ที่ไทยยังถูกจำกัดอยู่ค่อนข้างมาก ไม่สามารถดูคอนเทนต์ได้เยอะเท่าที่ญี่ปุ่น) แต่หากเป็นการชมไลฟ์ คอนเสิร์ต หรืองานแฟนมีตติ้งจะเป็นรูปแบบของ “Pay-Per-View” (PPV) ซึ่งก็คือคอนเทนต์ออนไลน์ที่สามารถรับชมบน ABEMA ได้แบบมีค่าบริการ โดยใช้ ABEMA Coin ในการซื้อและรับชมแต่ละคอนเทนต์ผ่านทางเว็บเบราเซอร์หรือแอปพลิเคชันบน iOS และ Android (ไม่สามารถซื้อผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ เช่น โทรทัศน์ เป็นต้น)
หรือกรณีที่ไม่สะดวกจ่ายผ่านบัตรเครดิต ทางอาเบมะเขาก็มีอีกหนึ่งช่องทางอย่าง Ticketmelon ให้แฟน ๆ สามารถจองบัตรได้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับคอนเสิร์ต EXILE 20th ANNIVERSARY EXILE LIVE TOUR 2021 “RED PHOENIX” ในครั้งนี้ เราเลือกชมในรูปแบบ ABEMA Premium เพราะตั้งใจอยากจะดูเอ็กไซล์แบบจัดเต็ม (ครบรอบ 20 ปีได้แค่ครั้งเดียวนี่เนอะ คอนเสิร์ตครั้งสำคัญแบบนี้ก็ต้องจัดเต็มกันไปเลย!)
การรับชมจะมี 2 รูปแบบให้เลือกคือ Standard และ Premium ซึ่งสิทธิพิเศษของผู้ที่จองแบบพรีเมียมก็คือการได้รับชมการถ่ายทอดบรรยากาศช่วงซ้อม (ระยะเวลาประมาณ 10 นาที) และ Backstage หลังจบการแสดงด้วย
PSYCHIC FEVER กับการร่วมแสดง Opening Act ให้กับคอนเสิร์ตของรุ่นพี่
พอใกล้ถึงเวลา เราก็ทำการล็อกอินเข้าระบบ รีบกดไปยังหน้า Purchased เพื่อเปิดหน้าถ่ายทอดรออย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งเวลา 15.40 น. บรรยากาศช่วงการซ้อมของสมาชิกทั้ง 13 คนก็เด้งขึ้นมา ชุดที่ใส่ซ้อมนั้นเท่ไม่แพ้ชุดตอนแสดงจริงเลยล่ะ ส่วนบรรยากาศการซ้อมจะมีทั้งช่วงซ้อมร้องและซ้อมเต้น ดูแล้วน่าจะเป็นการซ้อมรันคิวและบล็อกกิ้งซะมากกว่า สมาชิกแต่ละคนดูสบาย ๆ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็ถึงเวลาที่เอ็กไซล์ต้องเตรียมตัวขึ้นแสดงจริง ๆ
สำหรับศิลปินที่มาร่วมแสดง Opening Act (オープニングアクト) ในครั้งนี้ คือสมาชิกน้องใหม่ล่าสุดอย่าง “PSYCHIC FEVER” หรือที่แฟน ๆ เรียกสั้น ๆ ว่า “ไซฟี” หนุ่ม ๆ ขึ้นแสดงประมาณ 20 นาที ขนเพลงมาให้แฟน ๆ ได้สนุกไปด้วยกัน ทั้งเพลงจากช่วงพรีเดบิวต์และเพลงจากอัลบั้มเดบิวต์ “P.C.F” ที่เตรียมวางจำหน่าย 13 กรกฎาคมนี้
เริ่มต้นด้วยการที่เรนคุงบีทบ็อกซ์แนะนำสมาชิกแต่ละคน ก่อนจะต่อด้วยเพลง Best For You, Choose One, Snow Candy, Hotline และปิดด้วย PSYCHIC FEVER!!
VTR นกฟีนิกซ์ซึ่งกำลังโบยบินบนฟากฟ้า พร้อมเอฟเฟกต์เปลวไฟร้อนแรงที่ปลุกความตื่นเต้นให้กับคนดูอย่างเราได้ไม่น้อย
หลังจากการแสดงของไซฟีก็ถึงช่วงที่เรามีโอกาสได้เห็นบรรยากาศหลังเวที (Backstage) ก่อนเริ่มการแสดง และในที่สุด… การแสดงคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 20 ปีของ EXILE ก็เริ่มต้นขึ้น!
คอนเสิร์ตในครั้งนี้เปิดด้วยเพลง RED PHOENIX ที่เริ่มต้นด้วย VTR นกฟีนิกซ์ซึ่งกำลังโบยบินบนฟากฟ้า พร้อมเอฟเฟกต์เปลวไฟร้อนแรงที่ปลุกความตื่นเต้นให้กับคนดูอย่างเราได้ไม่น้อย จอ VTR รูปแบบวงกลมบริเวณเวทีหลักค่อย ๆ ยกตัวสูงขึ้น จนในที่สุดก็เผยให้เห็นสมาชิกเอ็กไซล์แต่ละคนในชุดโทนดำ-แดงสุดเท่ตามคอนเซ็ปท์เพลง
(จริง ๆ เราชอบชุดในเอ็มวีมากอยู่ ๆ แล้ว แต่คอนเสิร์ตครบรอบ 20 ปีก็ต้องมีลูกเล่นเพิ่มเติมอ่ะเนาะ ขนนกต้องมา!)
หลังจากนั้น เอ็กไซล์ก็พาเราขึ้นขบวนรถไฟแห่งความสนุกต่อเนื่องยาว ๆ ด้วยเพลง NEO UNIVERSE, 24WORLD, Someday, Someday, Choo Choo TRAIN, DOWN TOWN TOKYO, WON’T BE LONG, HAVANA LOVE, SUMMER TIME LOVE
(อิวาตะในชุดสีเงินคือเท่ไม่ไหว)
และปิดช่วงครึ่งแรกด้วยการสโลว์ดาวน์ ลดจังหวะความสนุกลงเป็นเพลงเบา ๆ ฟังชิล ๆ อย่าง アガパンサス โดยทาคาฮิโระ, เพลง HEMERA โดยโชคิจิ และเพลงもっと強くโดยทาคาฮิโระ โดยตลอดช่วงครึ่งแรกของการชมคอนเสิร์ตนั้น ราบรื่นดี ไม่มีกระตุก ไม่มีติดขัด หรือเกิดปัญหาใด ๆ เลย ทำให้คนดูอย่างเราเพลิดเพลินกับการดูคอนเสิร์ตได้แบบเต็มที่ดีมาก ๆ
เมดเลย์รวมเพลงฮิตจัดเต็มที่ทำเอาเราอยากจะลุกขึ้นกระโดดโบกผ้าตาม
พักหายใจหายคอกันได้เล็กน้อย หนุ่ม ๆ ก็พาเรากลับมากระโดดกันอีกครั้งกับการเปิดคอนเสิร์ตครึ่งหลังด้วยเพลง PARADOX, DANCE INTO FANTASY, YELLOW HAPPINESS และเมดเลย์รวมเพลงฮิตจัดเต็มที่ทำเอาเราอยากจะลุกขึ้นกระโดดโบกผ้าตามสมาชิกเอ็กไซล์ไปด้วย
(ช่วงเมดเลย์ที่เริ่มด้วยดีเจอลันคือดี! เราว่านี่คือเสน่ห์ของศิลปินในสังกัด LDH และข้อดีของการดูไลฟ์เพราะทำให้เราได้เห็นทักษะที่สมาชิกแต่ละคนถนัดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น)
ส่วนเพลงต่อมาคือเพลงที่ขาดไม่ได้อย่างเพลง Ki・mi・ni・mu・chu
(นั่งเต้นในที่ทำงานกันไปเลยจ้า คิมินิมุจูววว~)
(ช่วงที่ทาคาฮิโระกับคุโรกิแกล้งหยอกซาโตะก็น่าเอ็นดู)
ปิดท้ายครึ่งหลังก่อนเข้าสู่ช่วงอังกอร์ด้วยการพูดคุยกับแฟนเพลง และเพลงความหมายดี ๆ อย่าง Love of History พร้อมประกาศงาน BATTLE OF TOKYO ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 – 24 กรกฏาคม
แล้วก็ถึงเวลาที่ไม่อยากให้ถึง… ช่วงอังกอร์กับ 4 เพลงสุดท้าย สมาชิกกลับขึ้นเวทีด้วยชุดสีดำลวดลายสีทอง เปิดเวทีช่วงสุดท้ายด้วยเพลง EXILE PRIDE~こんな世界を愛するため~ และเพลงใหม่ล่าสุดอย่างเพลง BE THE ONE (MV ปล่อยในวันที่ 27 พฤษภาคมหลังจากคอนเสิร์ต – ชมมิวสิควิดีโอ คลิก)
ต่อด้วยเพลงซึ้ง ๆ อย่าง STAY WITH ME ก่อนจะคั่นจังหวะกันไม่ให้คนดูอย่างเราน้ำตาไหลด้วยช่วงพูดคุยกับแฟนเพลงอีกครั้ง แถมมีทักทายแขกวีไอพี พี่น้องร่วมตระกูลอย่างสมาชิก JSB3 ให้แฟน ๆ ได้รู้ด้วยนะว่าเพื่อนพวกเราก็มานะครับบบ ทั้งโคบายาชิ ยามาชิตะ และโอมิ ต่างก็พากันมาดูคอนเสิร์ตในวันนี้ และปิดท้ายแบบท้ายสุดจริง ๆ ด้วยเพลง Rising Sun ที่ได้มองสมาชิกทุกคนอย่างเต็มอิ่มผ่านหน้าจอ เดินทักทายแฟน ๆ ทั่วทุกมุมเวทีอย่างทั่วถึง และเพราะงานนี้ไม่มีเด็ก ๆ จูเนียร์มาร่วมแสดงด้วย เราเลยมีโอกาสได้เฝ้ามองสมาชิกทั้ง 13 คนที่ขึ้นแสดงในวันนี้อย่างเต็มอิ่มสุด ๆ! จบไปแบบแฮปปี้ ยิ้มแก้มบานไม่รู้ตัว
พี่น้องร่วมตระกูลอย่างสมาชิก JSB3 ต่างก็พากันมาให้กำลังใจสมาชิกร่วมค่ายในวันนี้
“RED PHOENIX” กับระยะเวลา 4 ชั่วโมงที่คิดว่าจะนาน แต่กลับไม่นานอย่างที่คิด อิ่มเอมสุด ๆ!
แต่ความดีงามของการดูไลฟ์ออนไลน์ยังไม่จบอยู่เพียงแค่นั้น เพราะเรามีโอกาสได้ชม Backstage หลังจบการแสดงต่ออีกนิดด้วย สิริรวมแล้ว 22 เพลงหลัก กับเวลา 4 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงซ้อมจนถึงช่วง Backstage
ระยะเวลา 4 ชั่วโมงที่ตอนแรกคิดว่าจะนาน แต่กลับไม่นานอย่างที่คิด ดูเพลินมาก ๆ จังหวะไหนที่หวีดจนทนไม่ไหวแล้วก็ปลดปล่อยด้วยการคอมเมนต์ผ่านไลฟ์ไปด้วย เป็นการดูไลฟ์ที่เพลินและประทับใจมาก ๆ
เหนือสิ่งอื่นใดคือเห็นได้ถึงความทุ่มเทของสมาชิกทุกคนจริง ๆ ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งเอ็นเตอร์เทนคนดู เต็มที่กันสุด ๆ แบบที่ทำเอาคนดูอยู่หน้าจออย่างเราอยากจะยื่นผ้าขนหนูทะลุจอเข้าไปให้หนุ่ม ๆ ใช้ซับหยาดเหงื่อที่กำลังไหลรินอยู่ซะตอนนั้นให้ได้เลย
และด้วยความอิ่มเอมนี้ก็เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ กับแฟน ๆ LDH ทุกคน ถ้าใครยังลังเลอยู่ว่า เอ๊ะ! จะเสียเงินดูไลฟ์ออนไลน์ดีรึเปล่านะ? เราว่าการตัดสินใจเลือกดูไลฟ์ผ่าน ABEMA ก็ดีไม่ใช่เล่นเลยล่ะ เพราะในขณะที่ยังเดินทางไปดูคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นเองไม่ได้ การได้ดูไลฟ์แบบไม่ต้องดั้นด้นมุด VPN ดูได้อย่างราบรื่น ไม่มีกระตุก ไม่มีติดขัด และได้สนับสนุนศิลปินที่เรารักด้วยนั้น ก็ถือว่าทางเลือกนี้ตอบโจทย์ที่สุดแล้วล่ะ!
สำหรับใครที่สนใจอยากดูกิจกรรมไลฟ์ คอนเสิร์ต หรือแฟนมีตติ้งออนไลน์ของวงโปรดผ่าน ABEMA ก็สามารถติดตามข่าวสาร รอดูรอลุ้นกันได้เลยว่าศิลปินคนถัดไปหรือวงถัด ๆ ไปที่เราจะมีโอกาสได้ดูไลฟ์ออนไลน์สดจากประเทศไทยผ่านอาเบมะจะเป็นใคร!
www.facebook.com/ABEMA-104763148676973
*รูปภาพประกอบในคอนเทนต์นี้ได้รับอนุญาตจากทาง ABEMA แล้ว
เรื่อง: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
อ่าน “THE LAST 10 YEARS ภาพยนตร์รักที่ผู้กำกับสั่งให้ โคมัตสึ และ ซาคากุจิ กลั้นน้ำตาระหว่างถ่ายทำ” คลิก
“Thonglor Yokocho ความภาคภูมิใจของอิซากาะยะสไตล์เฮวะ” คลิก