"ฮาจิเมะ อิซายามะ" (Hajime Isayama)

“ฮาจิเมะ อิซายามะ” (Hajime Isayama)

จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan

จบลงไปแล้ว กับการ์ตูนแห่งยุคอย่าง Attack on Titan ในรูปแบบฉบับมังงะ ที่สร้างความประทับใจให้กับเหล่าผู้ติดตามมากว่า 12 ปี จนถึงขนาดว่ามีแฮชแท็ก #ThankyouIsayama เพื่อแสดงความขอบคุณต่อ “ฮาจิเมะ อิซายามะ” (Hajime Isayama, 諫山 創) อาจารย์ผู้วาดกว่าแสนข้อความเลยทีเดียว

"ฮาจิเมะ อิซายามะ" จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan (Hajime Isayama, 諫山 創)

เพื่อเป็นการส่งท้าย DACO THAI ขอพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของ “ฮาจิเมะ อิซายามะ” บุคคลที่ในวัยเด็กมีร่างกายอ่อนแอ และไม่ว่าเขาจะพยายามส่งต้นฉบับไปที่ไหนก็ถูกปฏิเสธด้วยคำพูดที่ว่า “ลายเส้นแย่เกินกว่าจะเป็นการ์ตูนได้” ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ด้วยยอดขายรวมกว่า 100 ล้านเล่มทั่วโลก


เด็กชายในหุบเขายักษ์


ฮาจิเมะ อิซายามะ เกิดและเติบโตในเขตฮิตะ จังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชูที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงรายล้อม ฮาจิเมะในวัยเยาว์เป็นเด็กที่มีร่างกายอ่อนแอมาก มีน้ำหนักน้อยกว่าเด็กทั่วไปถึง 10 กิโลกรัม แต่เขาก็ยังรักในการเล่นกีฬา ฮาจิเมะลงแข่งทั้งว่ายน้ำ ซูโม่ ฟุตบอล และอีกมากมาย แต่ผลลัพธ์คือเขาไม่เคยชนะใครได้เลย

"ฮาจิเมะ อิซายามะ" จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan (Hajime Isayama, 諫山 創)

สิ่งนี้ถือเป็นปมในใจของฮาจิเมะอย่างมาก เพราะในความจริงแล้วตัวเขานั้นมีสิ่งที่รักและหลงใหลเป็นอย่างมากคือ “ความแข็งแกร่งเฉกเช่นฮีโร่” เหมือนกับอุลตร้าแมนหรือฮีโร่ที่แปลงร่างได้ที่ฮาจิเมะเคยดูในวัยเด็ก

และเมื่อรู้ว่าตัวเองคงไม่มีทางเป็นฮีโร่ได้จากสภาพร่างกายที่เป็นอยู่ ฮาจิเมะจึงเก็บเอาความรู้สึกเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนการ์ตูนแทน


ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด


เมื่อโตขึ้น ฮาจิเมะก็เป็นเหมือนวัยรุ่นหลายคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่พอใจในบ้านเกิด และตัดสินใจที่จะเข้าโตเกียวเพื่อเป็นนักวาดการ์ตูน แม้ว่าตัวคุณพ่อของเขาจะคัดค้านอย่างหนักก็ตาม “ผมไม่ได้ตัดสินใจด้วยความมุ่งมั่นหรืออะไรแบบนั้นหรอกครับ แต่เป็นเพราะความรู้สึกอัดอัดใจในความต่ำต้อยของชีวิตตัวเองต่างหาก”

ในที่สุด ฮาจิเมะในวัย 20 ปี ก็ตัดสินใจเข้ามาที่โตเกียวและทำงานอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่อที่จะได้มีเวลาในการเขียนการ์ตูนอย่างเต็มที่ แต่ชีวิตจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะในแต่ละวันฮาจิเมะต้องเจอกับเหล่าลูกค้าที่เมาจนไม่ได้สติ ทั้งเข้ามาทำร้ายและพูดจาไม่ดีใส่

“ช่วงเวลาที่ผมต้องเจอกับคนเมาที่คุมสติไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร มันทำให้ผมรู้สึกกลัวมาก” ฮาจิเมะเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกที่เขาต้องเจอในช่วงเวลานั้น

ท่ามกลางชีวิตที่ทุกอย่างดูไม่เป็นใจ แต่ในที่สุดฮาจิเมะก็เขียนการ์ตูน One Shot ออกมาได้สำเร็จ และเรื่องนั้นก็คือ “Attack on Titan”

"ฮาจิเมะ อิซายามะ" จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan (Hajime Isayama, 諫山 創)


Attack on Titan!


ณ ตอนนั้นทุกอย่างเหมือนกลายเป็นฟ้าหลังฝน เพราะ Attack on Titan ของฮาจิเมะได้รับการคัดเลือกให้ตีพิมพ์ใน Magazine Grand Prix (MGP) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Kodansha Ltd. ด้วยคะแนนสูงสุด

ฮาจิเมะนำต้นฉบับของ Attack On Titan ไปพร้อมกับความมั่นใจ เพื่อยื่นให้กับ Weekly Shonen Jump ที่ค่ายหนังสือการ์ตูนชั้นนำระดับประเทศอย่าง Shueisha แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมา คือการให้เขาปรับเปลี่ยนรูปแบบและเรื่องราวให้เหมาะสมกับ Weekly Shonen Jump มากขึ้น

“พวกเขาบอกผมว่าเขาชอบเนื้อเรื่องนะ แต่ผมต้องปรับมันเพื่อให้เข้ากับนิตยสาร อีกทั้งพวกเขายังบอกว่าลายเส้นของผมมันแย่ด้วย” ฮาจิเมะย้อนวันวานในอดีต

"ฮาจิเมะ อิซายามะ" จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan (Hajime Isayama, 諫山 創)

ด้วยความคิดที่ไม่อยากยอมแพ้ ฮาจิเมะตัดสินใจพัฒนาฝีมือ เขาใช้เวลาอยู่เป็นปีเพื่อพัฒนาตัวเอง นำเอาสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตทั้งประสบการณ์และความฝันมาผสมผสานเพื่อพัฒนาผลงาน

ตัวละครเอกที่อยากจะเป็นฮีโร่ให้กับทุกคน การแปลงกายเป็นไททันฮีโร่ยักษ์ใหญ่เหมือนกับอุลตร้าแมนที่เคยดูในวัยเยาว์ ไททันวิปริตที่มาจากการเจอคนเมาเมื่อครั้งที่ทำงานในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หรือกำแพงยักษ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเขื่อนโอยามะและหุบเขามากมายในบ้านเกิด เขานำทั้งหมดนั้นมาใส่ในการ์ตูนทั้งหมด และเมื่อเจอกับลายเส้นที่ให้ความรู้สึกดิบเถื่อนที่ใครมองว่าไม่สวยแต่แรก สิ่งที่ดูจะไม่เข้ากันกลับเข้ากันอย่างลงตัว

เมื่อมั่นใจแล้ว ฮาจิเมะก็นำต้นฉบับนี้กลับไปยื่นเสนอใหม่ ซึ่งรอบนี้เขาเลือกที่จะนำส่งกับทางสำนักพิมพ์ Kodansha ที่เขาเคยได้รับคัดเลือกให้ตีพิมพ์นั่นเอง


ฮีโร่กลับบ้าน


ณ ปัจจุบันนี้ Attack on Titan กลายเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก และถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ Live-Action รวมถึงแอนิเมชั่นซีรี่ส์ที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากเหล่าแฟนคลับทั้ง 4 ซีซั่น โดยเฉพาะในซีซั่นสุดท้าย ถึงขนาดกลายเป็น Talk of The Town บนโลกออนไลน์อยู่หลายครั้งเลยทีเดียว

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ.2020 ที่เขตฮิตะ จังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ได้มีการจัดนิทรรศการ Attack on Titan และมีการระดมทุนสร้างรูปปั้นของ อาร์มิน มิคาสะ และเอเรน ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัด โดยฮาจิเมะได้เดินทางกลับไปเพื่อร่วมงานครั้งนี้ด้วย

"ฮาจิเมะ อิซายามะ" จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan (Hajime Isayama, 諫山 創)

ฮาจิเมะได้เขียนถึงเรื่องนี้ในบล็อกไว้ว่าตัวเขาซาบซึ้งและรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ทำให้เกิดงานในครั้งนี้ขึ้น เขามีความสุขมากที่ได้รู้ว่าการ์ตูนของเขาสร้างความประทับใจให้ใครต่อใครบ้าง

บางทีความทุกข์ในวัยเยาว์ที่เขาได้จากเมืองนี้ อาจถูกปลดปล่อยแล้ว

ปัจจุบัน ฮาจิเมะ อิซายามะ ยังไม่ได้มีแพลนในการเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่แต่อย่างใด เขาเพียงวางแผนพักผ่อนกับภรรยา และยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเหมือนอย่างเคย

แม้ความจริงนั้นเขาจะไม่ได้เป็นฮีโร่เหมือนอย่างที่เขาเคยใฝ่ฝันสมัยเด็ก แต่ฮาจิเมะ อิซายามะและการ์ตูนของเขาก็ส่งต่อพลังให้ทุกคนอยากมีชีวิตต่อไป

เพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่า เพื่ออิสรภาพที่แท้จริง

"ฮาจิเมะ อิซายามะ" จากการ์ตูนที่ถูกปฏิเสธ ก่อนกลายเป็น Attack on Titan (Hajime Isayama, 諫山 創)

อ้างอิง
https://bit.ly/3g1401K
https://bit.ly/3t7VrpV
https://bit.ly/3dVWlPG
https://youtu.be/lDDRtjSq3Fc
https://youtu.be/gIB24DsMMCY
https://natalie.mu/comic/news/114924
http://blog.livedoor.jp/isayamahazime/archives/10311972.html
http://ajw.asahi.com/article/cool_japan/culture/AJ201304150005

รูปประกอบ
https://bit.ly/3g1401K
https://twitter.com/BETSUMAGAnews/status/1077876834002325511


ไทกะ ละครย้อนยุคระดับชาติของญี่ปุ่นคลิก
のん! ล้มร้อยครั้ง ลุกร้อยครั้ง เส้นทางชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ของนนจังคลิก

views