ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาผ่านการแสดงสดของ Haru Nemuri

ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาผ่านการแสดงสดของ Haru Nemuri

หลังจากสร้างตำนานความเดือดไว้ที่เวทีริมแดง ณ เทศกาลดนตรีนานาชาติ Maho Rasop Festival เมื่อปี ค.ศ.2022 “ฮารุ เนมุริ” (Haru Nemuri – 春ねむり) กลับมาสร้างตำนานบทใหม่อีกครั้งในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเธอในเมืองไทย “HARU NEMURI Live In Bangkok 2023” เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา

ดาโกะจึงไม่พลาดโอกาสนี้ และใช้เวลาพูดคุยกับเธอก่อนขึ้นแสดง เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทำให้เราได้รู้จักเธอมากขึ้นและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการถ่ายทอดความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาผ่านบทเพลงที่เธอตั้งใจรังสรรค์ขึ้น

ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาผ่านการแสดงสดของ Haru Nemuri

- สื่อดนตรีหลายสำนักเรียกแนวเพลงของฮารุ เนมุริว่า “Poetry Rap” มีนักกวี นักเขียน หรือใครเป็นแรงบันดาลในทำเพลงแนวนี้ไหม

ที่ญี่ปุ่นมี Poetry Rapper ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ๆ อยู่คนหนึ่งชื่อ “fukashigi/wonderboy” (不可思議/Wonderboy) ค่ะ ฉันฟังเพลงของเขาเยอะมาก ๆ และคิดว่าเขาเป็นคนแรกที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงค่ะ เวลาที่ฉันเริ่มทำเพลงจะเริ่มจากการทำแทร็คดนตรีก่อน แล้วค่อยเขียนไรม์ให้เข้ากับแทร็ค จะไม่เขียนไรม์ก่อนแล้วค่อยทำแทร็ค เพราะฉันมองว่าตัวแทร็คจะเป็นตัวบอกว่าฉันควรจะเขียนเนื้อร้องออกมาแบบไหนค่ะ

- เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีโอกาสได้เดินทางไปทัวร์ยุโรป กระแสตอบรับของแฟนเพลงฝั่งยุโรปเป็นอย่างไรบ้าง

การทัวร์ยุโรปในครั้งนี้เป็นการทัวร์ในรอบ 4 ปีของฉันค่ะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนฟังนอกญี่ปุ่นเยอะขนาดนี้ ทุกคนดูสนุกสนาน และต้อนรับฉันอย่างร้อนแรงมาก ๆ เลยรู้สึกดีใจมาก ๆ และนั่นทำให้ฉันรับรู้ได้ว่า ฉันสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ค่ะ

ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาผ่านการแสดงสดของ Haru Nemuri

- สำหรับซิงเกิลล่าสุด ‘Getting Ready’ ที่ทำร่วมกับศิลปินไทยอย่าง Alec Orachi นั้น ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับเพลง Getting Ready แล้วจะว่ายังไงดีนะ โดยปกติแล้วแนวดนตรีของ ‘ฮารุ เนมุริ’ จะมีความเป็น ‘ฮารุ เนมุริ’ อยู่ แต่ครั้งนี้น่าจะแตกต่างจากปกตินิดหน่อย เป็นเพลงที่เกิดจากการผสมผสานจุดร่วมกันของ Haru Nemuri นั้น กับ Alec Orachi เอาไว้ด้วยกันได้เป็นอย่างดี ยังคงไว้ซึ่งสไตล์ของเราทั้งคู่ และถ่ายทอดออกมาได้อย่าง อืม… ค่อนข้างตลกเฮฮา ล่ะมั้งคะ

ส่วนประสบการณ์ในการทำเพลง Alec Orachi นั้น เขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก เขาทำเพลงออกมาให้เรารู้สึกเหมือนว่าทำตรงนี้ให้กลายเป็นแบบนั้นได้ด้วยเหรอ เป็นแทร็คที่จะทำให้คนฟังรู้สึกประหลาดใจ ขนาดตอนฉันได้ฟังครั้งแรกยังรู้สึกตกใจมาก ๆ เลยรู้สึกสนุกมาก ๆ ตอนที่ได้ทำเพลงนี้ค่ะ

- สำหรับฮารุ เนมุริแล้ว มองว่าอะไรคือจุดเด่นในการแสดงสดของตัวเอง

ฉันมองว่าข้อดีในการแสดงสดของตัวเองคือการที่ฉันสามารถถ่ายทอดอารมณ์และสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ในการแสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมานั้นก็ทำให้บางครั้งมีทั้งความรู้สึกเศร้าหรือเจ็บปวดถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเช่นกันค่ะ

– มาไทยคราวที่แล้วได้รับการตอบรับดีมากจากการขึ้นแสดงที่เวทีริมแดงในเทศกาลดนตรี Maho Rasop Festival ครั้งนี้ เตรียมตัวมาอย่างไรบ้าง

ครั้งก่อนเป็นการแสดงในเทศกาลดนตรี เลยเตรียมเซ็ตลิสต์เพลงที่สนุกสนานคึกคักที่เหมาะกับเทศกาลมาเยอะ ส่วนครั้งนี้เพราะเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวหลังจากปล่อยผลงานใหม่ด้วย เลยคิดว่าเป็นโอกาสที่จะแสดงออกมาให้คนดูได้เห็นถึงโลกของตัวเอง โลกของดนตรีได้อย่างละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น ไม่เพียงแค่สนุกสนานคึกคักเพียงอย่างเดียว แต่มีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ ออกมาด้วย

ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาผ่านการแสดงสดของ Haru Nemuri

- สุดท้ายนี้ มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนเพลงชาวไทยไหม

ขอให้ทุกคนร่าเริงและสุขภาพแข็งแรงเสมอนะคะ (หัวเราะ)

และนี่คือความตั้งใจของ ‘ฮารุ เนมุริ’ นักร้อง นักแต่งเพลง แร็ปเปอร์ และโปรดิวเซอร์จากโยโกฮาม่า ผู้ซึ่งเขียน เรียบเรียง และสร้างสรรค์เพลงทั้งหมดด้วยตัวของเธอเอง


ห้วงความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาผ่านการแสดงสดของ ฮารุ เนมุริ ที่จะทำให้คุณเหมือนตกอยู่ในภวังค์


สำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในเมืองไทยของเธอในครั้งนี้ ฮารุ เนมุริ ยังคงความดิบเหมือนครั้งมหรสพไว้ได้เหมือนเช่นเคย พร้อมยกระดับความเดือดขึ้นอีกขั้นด้วยการเพิ่มมือกลองเข้ามาซึ่งช่วยให้ซาวน์นั้นมีความสดและดุเดือดมากขึ้นกว่ารอบก่อน นอกจากเพลงจากอัลบั้มก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น Déconstruction, Never Let You Go, Who the fuck is burning the forest? และ kick in the world แล้ว เพลงที่เธอเพิ่งปล่อยออกมาในช่วงปี 2023 ทั้ง I Refuse และ Destruction Sisters ก็ถูกจัดลงมาในเซ็ตลิสต์ด้วยเช่นกัน

ตลอดการแสดงของ ฮารุ เนมุริ สิ่งที่เธอถ่ายทอดทั้งผ่านการร้อง ผ่านเนื้อเพลง ผ่านสีหน้าและท่าทางนั้น ทำให้เราสัมผัสได้ถึงพลังที่ล้นเหลือและเห็นได้ชัดถึงความพยายามในการถ่ายทอดตัวตนของเธออย่างตรงไปตรงมาผ่านการแสดงสด ความโกรธเคืองและเศร้าเสียใจที่ถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงที่สั่นเครือกับท่อน Who the fuck is burning the forest? ที่ฮารุร้องวนไปเรื่อย ๆ นั้น หรือความเกรี้ยวกราดที่ถ่ายทอดผ่านการว้ากในเพลง I Refuse นั้นมีความดิบและเข้าถึงอารมณ์ได้มากกว่าการฟังออดิโอ้เป็นไหน ๆ หรือการลงจากเวทีมาเพื่อนำพาเพลงของเธอเข้าสู่ใจกลางพื้นที่คนดูและควรทุกคนร้องท่อน Aa aa aa aa a! ไปด้วยกันในเพลง Sekai wo Torikaeshite Okure ก็สร้างสีสันและความสนุกให้กับการแสดงสดในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากการแสดงสดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความรู้สึกแล้ว ช่วงพูดคุยระหว่างเพลง ฮารุ เนมุริ ยังคอยย้ำเตือนให้เราได้เห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ รวมถึงการเป็นตัวของตัวเอง การเป็นในสิ่งที่เราเป็น รวมทั้งประเด็นทางสังคมและการใช้ชีวิตอื่น ๆ ที่เราสัมผัสได้ว่าสิ่งเหล่านั้นถูกถ่ายทอดออกมาจากใจจริงของเธอด้วย ก่อนจะปิดท้ายด้วยอังกอร์เพลง MAKE MORE NOISE OF YOU, Ikiru ที่การได้ตะโกนท่อน How beautiful life is! ของเพลงซึ่งเพลงโปรดของเราไปพร้อมกับเธอมันทำให้ค่ำคืนนั้นเป็นค่ำคืนที่ดูมีความหมายมากขึ้น พร้อมกับเพลง Getting Ready ที่เธอชวน Alec Orachi ขึ้นมาสร้างความสนุกให้กับคนดูอีกรอบ และถึงแม้เวทีในครั้งนี้จะไม่เอื้ออำนวยในการทำ Stage Dive แต่ตลอดการแสดงจนถึงช่วงอังกอร์ในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งนี้ของเธอก็สร้างความประทับใจให้กับเราได้ไม่แพ้การแสดงเมื่อครั้งมหรสพเลยทีเดียว

ติดตามและเป็นกำลังใจให้ Haru Nemuri ได้ทาง
Website / Faecbook / Instagram / X / YouTube

และอย่าลืมติดตาม Seen Scene Space  ผู้จัดคอนเสิร์ตสายอินดี้กันไว้ แล้วมาลุ้นกันว่าศิลปินญี่ปุ่นคนถัดไปหรือวงถัดไปที่จะมาไทยจะเป็นใครกัน


อ่าน “Yuka กับการแต่งเพลงเพื่อให้กำลังใจตัวเองและคนอื่น ๆ กับเพลงฮิตอย่าง Baby Youคลิก

views