การสนทนากับผู้คนผ่านการแสดงดนตรีสุดน่าทึ่งของ Hiromi Uehara

หากจะพูดถึงนักเปียโนฝีมือระดับโลกสักคนที่ก้าวข้ามหลากหลายขีดจำกัด เปล่งประกายอยู่เสมอด้วยรอยยิ้มที่สดใส และการแสดงที่ทำให้คนดูอย่างเราสัมผัสได้ว่าเธอสนุกสนานกับการบรรเลงเปียโนด้วยมือเล็ก ๆ ที่แข็งแกร่งนั้นมากแค่ไหน ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Hiromi Uehara (ฮิโรมิ อุเอฮาระ)

ฮิโรมิ อุเอฮาระ คือนักเปียโนและนักแต่งเพลงที่ผสมผสานหลากหลายแนวดนตรีไว้ในผลงานของเธอ ซึ่งเริ่มเล่นเปียโนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยเริ่มเข้าสู่วงการดนตรีแจ๊สผ่านการแนะนำโดยคุณครูเปียโนของเธอเมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ก่อนที่ตอนอายุ 14 จะมีโอกาสได้ร่วมเล่นกับ Czech Philharmonic Orchestra และถูกเชิญให้ร่วมแสดงกับ Chic Corea นักเปียโนระดับตำนานระหว่างที่เขามาเยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อตอนอายุ 16 ปี

ฮิโรมิ อุเอฮาระ ได้ทุนเรียนต่อที่ Berklee College of Music เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา โดยได้นักเปียโนแจ๊สอย่าง Ahmad Jamal เป็นครูผู้สอนที่คอยดูแล และได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงครั้งแรกก่อนที่เธอจะจบการศึกษาอีกด้วย

การสนทนากับผู้คนผ่านการแสดงดนตรีสุดน่าทึ่งของ Hiromi Uehara

นี่คือเส้นทางก้าวสู่การเป็นนักเปียโนระดับโลกของเธอ พร้อมกับหน้าที่อันทรงเกียรติในการแสดงในค่ำคืนแห่งพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 และการรับหน้าที่ประพันธ์ดนตรีให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นดนตรีแจ๊สบ้าพลังอย่าง Blue Giant ที่ผู้คนต่างพากันตกหลุมรักในดนตรีที่เธอรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี ค.ศ.2023

และช่วงเวลาที่เราจะได้สัมผัสกับพลังทางดนตรีอันน่าทึ่งผ่านปลายนิ้วของเธอก็มาถึงในที่สุด! เมื่อ ฮิโรมิ อุเอฮาระ จะกลับมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากผ่านมาเกือบ 20 ปีในเทศกาลดนตรีนานาชาติ PELUPO 2025

PELUPO 2025

DACO จึงรีบคว้าโอกาสครั้งนี้ ชวน ฮิโรมิ อุเอฮาระ พูดคุยถึงการแต่งเพลง ความรักในดนตรีแจ๊ส และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากถ่ายทอดในการแสดงที่ประเทศไทยครั้งนี้


การแต่งเพลงสักเพลงขึ้นมาก็คงเปรียบเสมือนการตามหาสมบัติ


- ซิงเกิลที่เพิ่งปล่อยออกมาอย่าง Balloon Pop เป็นเพลงสดใสที่ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า คุณรู้สึกอย่างไรบ้างตอนที่กำลังแต่งเพลงนี้

สำหรับเพลง Balloon Pop จะเป็นเพลงในอัลบั้มใหม่ ‘OUT THERE’ ที่มีกำหนดวางจำหน่าย 4 เมษายนนี้ เป็นอัลบั้มที่ต้องการสื่อถึงการก้าวออกไปข้างนอก ซึ่งในภาษาอังกฤษจะมีประโยคที่มักใช้ถ่ายทอดความรู้สึกอย่าง “Something out there. It’s out there.” อยู่ (มีบางอย่างอยู่ข้างนอก มันอยู่ที่ข้างนอกนั่น)

ฉันมีความเชื่อว่าชีวิตของคนเราเต็มไปด้วยการผจญภัย และเราจะประสบความสำเร็จได้ด้วยการก้าวออกไปสู่โลกภายนอกนั้น คิดว่าอัลบั้มนี้ให้ความรู้สึกเชิงบวกมาก ๆ และเพลง Balloon Pop ก็เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกของการมองออกไปข้างนอกมาก ๆ อีกเพลงเช่นกัน

- สำหรับอัลบั้มก่อนหน้า ‘Sonicwonderland’ ที่มีการผสมผสานระหว่างแนวดนตรีแจ๊ส ฟังค์ เทคโน และอิเล็กทรอนิกส์นั้น พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าเบื้องหลังการรังสรรค์อัลบั้มนี้มีที่มาอย่างไรบ้าง

พูดตามตรงว่าฉันไม่คิดว่ามันคือการผสมผสานแนวเพลงต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นั่นเพราะฉันเติบโตมากับการฟังเพลงหลากหลายแนว ฉันจึงรวมสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกันแล้วนวดมันเสมือนนวดดินน้ำมันจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน คิดว่าเป็นอัลบั้มที่มีองค์ประกอบต่าง ๆ มากมายและเป็นอัลบั้มที่มีการพัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติมาก ๆ

ในส่วนของดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ เพราะไม่ใช่แค่เปียโนอะคูสติกเท่านั้น แต่ฉันอยากให้มีคีย์บอร์ด และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ด้วย ในตอนแรกฉันจึงมองหาคนที่สามารถเล่นทรัมเป็ตในระดับโทนเสียงกลาง-ต่ำและมีโทนเสียงที่สวยงามได้ด้วย ดังนั้น ทีมนักดนตรีที่ร่วมกันทำอัลบั้ม Sonicwonderland จึงจะโฟกัสที่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก

“จริง ๆ การแต่งเพลงสักเพลงขึ้นมาก็คงเปรียบเสมือนการตามหาสมบัติ” นั่นคือสิ่งที่ฉันมักนึกถึงเสมอในระหว่างที่ค้นหาแรงบันดาลใจ บางครั้งฉันสามารถค้นเจอสิ่งนั้นได้ในทันที แต่ในบางครั้งฉันก็ไม่สามารถค้นเจอสิ่งนั้นได้

- มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกวงไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา แล้วในขณะที่คุณกำลังทำอัลบั้มอยู่ ได้ทำการค้นหาสมาชิกไปด้วยหรือเปล่า

ตอนที่ทำอัลบั้มแรก Sonicwonderland ฉันเฝ้ามองหาสมาชิกที่จะสามารถถ่ายทอดภาพเสียงดนตรีที่ฉันคิดไว้ในหัวออกมาเป็นเสียงดนตรีจริง ๆ ได้อยู่เสมอ

และหลังจากที่ทัวร์รอบโลกกับพวกเขาเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง ฉันจึงได้เข้าใจว่าพวกเขาเหล่านั้นวิเศษมากแค่ไหน ได้เข้าใจว่าพวกเขาสามารถส่งเสริมกันและกันให้เปล่งประกายได้อย่างไร และได้เข้าใจว่าอะไรคือจุดแข็งของพวกเขา ดังนั้น ในอัลบั้มที่สองฉันจึงแต่งเพลงโดยคำนึงถึงพวกเขาแต่ละคนเป็นหลัก

พูดง่าย ๆ คือ สำหรับอัลบั้มแรก ฉันใช้ดนตรีเป็นจุดเริ่มต้น แล้วจึงมองหาคนที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงได้ แต่สำหรับอัลบั้มที่สอง ฉันใช้นักดนตรีในทีมเป็นจุดเริ่มต้น แล้วสร้างสรรค์ดนตรีที่เหมาะกับพวกเขา นั่นจึงทำให้การรังสรรค์เพลงของทั้งสองอัลบั้มมีวิธีที่แตกต่างกันเล็กน้อย

Hiromi's Sonicwonder

- มีโอกาสแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Blue Giant ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชมชาวไทย ช่วยเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ใช้ในการแต่งเพลงเหล่านี้หน่อยได้ไหม

Blue Giant เป็นเรื่องราวที่อิงมาจากมังงะ ซึ่งฉันเองรู้จักนักวาดมังงะต้นฉบับ (ชินอิจิ อิชิซึกะ) และผู้เขียนบทภาพยนตร์ (NUMBER 8) มานานมากแล้ว และฉันก็ได้รับหน้าที่เขียนเพลงประกอบมังงะต้นฉบับด้วย ฉันดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะพูดคุยถึงการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ด้วยซ้ำ ฉันจึงคลุกคลีอยู่กับเรื่องนี้มานานมาก ๆ ดังนั้น เมื่อมีแนวคิดที่จะนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ฉันจึงได้มีส่วนร่วมในการรับหน้าที่แต่งเพลงโดยปริยาย

ส่วนผู้กำกับยูซุรุ ทาจิคาวะเองก็เป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยม เขามีภาพเสียงในใจที่ชัดเจน พวกเรามีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับดนตรีที่จำเป็นจะต้องใช้สำหรับภาพต่าง ๆ และเราก็ได้ทำเพลงประกอบขึ้นมา

โดยในส่วนของฉากการแสดงดนตรีในแอนิเมชั่นนั้น ได้ใช้วิธีการผลิตที่ตรงข้ามกับแอนิเมชั่นทั่วไป คือเราทำการบันทึกการแสดงดนตรีขึ้นก่อน จากนั้นจึงค่อยสร้างแอนิเมชั่นขึ้นมาในภายหลัง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมขั้นตอนในการสร้างแอนิเมชั่นจึงยากมาก


ดนตรีแแจ๊สคือการร้อยเรียงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น ณ สถานที่แห่งนั้น และ ณ ขณะนั้นเข้าด้วยกัน


- คุณนิยามดนตรีแจ๊สว่าอย่างไร และอะไรคือสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับดนตรีแจ๊สมากที่สุด

สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดคือส่วนของการแสดงแบบด้นสด มันคือการร้อยเรียงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น ณ สถานที่แห่งนั้น และ ณ ขณะนั้นเข้าด้วยกัน การแสดงแบบด้นสดเลยทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังสนทนาอยู่จริง ๆ มันเหมือนกับการสนทนากับใครสักคนผ่านดนตรี และพูดว่า “ฟังนะ! นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นล่ะ”

มีบางวันที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองสามารถพูดได้ดีและถ่ายทอดสิ่งที่คิดออกมาได้ดี แต่ก็มีบางวันที่ฉันหาคำพูดไม่เจอและรู้สึกถ่อยทอดออกมาได้ยากลำบากเหมือนกัน ฉันคิดว่าสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ การฝึกฝน และอีกหลาย ๆ ปัจจัย ดังนั้น การแสดงแบบด้นสดจึงคล้ายกับการพูดคุยมาก ๆ มันเหมือนกับภาษาตรงที่เราจะสามารถสื่อสารได้มากขึ้น หากเรามีคำศัพท์มากพอ และในทางดนตรี การมีคลังคำศัพท์จำนวนมากในด้านดนตรีก็ย่อมดีกว่าเช่นกัน

และสำหรับฉันแล้ว ฉันเลือกที่จะด้นสดด้วยความรู้สึกที่แท้จริง ด้วยคำพูดที่ออกมาจากหัวใจ ให้เป็นคำพูดของตัวฉันเอง แต่เพราะฉันไม่ได้เป็นคนคิดค้นภาษาหรือดนตรี ดังนั้น ฉันจึงสร้างมันขึ้นมาโดยการคิดถึงวลีต่าง ๆ แล้วนำมาผสมผสานเข้าด้วยกันแทน ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการพูดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเอง ฉันคิดว่ามนุษย์ทุกคนมีความสามารถแบบนั้นอยู่ และนั่นคือสิ่งที่ฉันทำกับดนตรี รวมทั้งการแสดงดนตรีแบบด้นสด

หลาย ๆ คนคิดว่าการแสดงแบบด้นสดเป็นเรื่องยาก แต่จริง ๆ แล้วทุกคนสามารถทำได้ ผ่านการลองคิดหรือจินตนาการว่า “วันนี้เราจะพูดคุยเรื่องอะไรได้บ้าง” “วันนี้ ฉันจะได้คุยกับคนแบบไหนกันนะ” นั่นคือความรู้สึกที่ฉันมีเวลาที่แสดงสด และเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันมักจะตั้งตาคอย

ฉันคิดว่านั่นคือคำจำกัดความของดนตรีแจ๊ส และเป็นสิ่งที่ดึงดูดฉันให้สนใจในดนตรีแจ๊ส

Hiromi Uehara

- คุณมีความรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ เลยไหม

ไม่เลย ฉันเพิ่งมาค้นพบดนตรีแจ๊สตอนอายุ 8 ขวบ ฉันชอบจังหวะ เสียงที่ใช้ และบรรยากาศ เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับเด็กที่หลงใหลเพลงบางเพลง พอฉันได้ฟังดนตรีแจ๊สแล้วรู้สึกว่าจังหวะมันสนุกสนานดี และค่อย ๆ เริ่มเข้าใจการด้นสดมากขึ้นเรื่อย ๆ

แม้ว่าคนคนเดียวกันจะเล่นเพลงเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับแตกต่างกัน และแม้ว่าคนคนเดียวกันจะเล่นเพลงเดียวกัน แต่การแสดงสองครั้งก็ไม่เหมือนกัน ยิ่งฉันศึกษาสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ฉันก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น และคิดว่านั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึก ณ ตอนนี้

– แล้วเวลาที่แต่งเพลง มีภาพในใจก่อนไหม หรือในขณะที่กำลังสร้างสรรค์ชิ้นงาน ได้จินตนาไปด้วยไหมว่ากำลังพูดคุยกับสิ่งนั้นอยู่

ฉันมักจะแต่งเพลงด้วยความรู้สึกว่า “ถ้าได้เห็นชิ้นงานหรือบทเพลงในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็คงจะดีไม่น้อย”

- นอกจากเปียโนแล้ว คุณอยากลองเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่นด้วยไหม

ฉันชอบฟังเสียงเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ด้วยนะ แต่ฉันเล่นไม่ได้ล่ะ

- แล้วถ้าไม่ได้เป็นนักเปียโนแจ๊ส อยากจะลองเป็นหรือลองทำอะไร

นอกจากเปียโนแล้ว สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือการกินและอาจรวมถึงการทำอาหารด้วย ฉันคิดว่าเรื่องอาหารก็คล้ายกับเรื่องดนตรี สิ่งที่ต้องการกินนั้นมักแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ซึ่งเรื่องดนตรีก็เหมือนกัน สิ่งที่เราอยากฟังก็มักจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน รวมทั้งเปลี่ยนไปตามสภาพร่างกายและอารมณ์ของเราในวันนั้น ๆ ด้วย

การรับประทานอาหารจานหนึ่งในเมืองเมืองหนึ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง จะทำให้หวนคิดถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมา เช่นเดียวกับการฟังเพลงในช่วงเวลาหนึ่งที่สามารถทำให้เรานึกถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมาได้เช่นกัน

ฉันเองก็รู้สึกว่าดนตรีมีความคล้ายกับอาหารที่แม่เคยทำให้กินตอนอยู่ที่บ้านมาก และรู้สึกว่ารู้สึกว่าการเป็นเชฟควรเน้นที่พื้นฐานก่อน แล้วจึงค่อยค้นหาเมนูและรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งก็คล้ายกับความรู้สึกของฉันในฐานะนักดนตรี

เหนือสิ่งอื่นใด ฉันชอบกินอาหารมาก ๆ ค่ะ

Hiromi Uehara


ผัดซีอิ๊วคือส่วนหนึ่งของร่างกายและชีวิตฉันเลย ฉันชอบกินมากขนาดนั้นเลยล่ะ!


- เทศกาลดนตรี PELUPO 2025 ครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้แสดงที่ประเทศไทยมานานหลายปี ตั้งแต่ Bangkok Jazz Festival ในปี ค.ศ.2006 รู้สึกอย่างไรบ้าง

19 ปีแล้ว! ฉันรักประเทศไทย (หัวเราะ) และอาหารที่ฉันกินบ่อยที่สุดก็คืออาหารไทย ฉันชอบมาก ๆ ปัจจุบัน ฉันอาศัยอยู่ที่อเมริกาซึ่งสามารถหาอาหารไทยคุณภาพสูงกินได้ ฉันจึงชอบมากและกินบ่อยมาก ๆ ซึ่งตัวฉันเองคิดว่าการไปเมืองไทยนั้นคงเป็นเรื่องยาก “แต่ในที่สุดก็จะได้กลับไปแล้ว!” เป็นความรู้สึกแบบนั้นค่ะ

- ตอนที่รู้ว่าจะได้กลับมาที่ประเทศไทย สิ่งแรกที่คุณนึกถึงคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่คุณคิดถึงมากที่สุด

ในที่สุดฉันก็จะได้กลับไปประเทศไทยแล้ว! ถึงจะใช้เวลานานมาก แต่ฉันก็ดีใจมากที่ในที่สุดผู้จัดก็ติดต่อหาฉัน ฉันรักอาหารไทย ฉันนึกถึงคนไทยที่ใจดีและเป็นกันเอง เป็นประเทศที่เป็นมิตร และฉันยังชอบนวดแผนไทยด้วย

อีกทั้งประเทศไทยยังให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับความเป็นญี่ปุ่นมากเช่นกัน ฉันชอบตรงที่ผู้คนยกมือไหว้หรือโค้งทักทายกันอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่คนญี่ปุ่นโค้งคำนับทักทายกัน

และสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุดก็คือ ผัดซีอิ๊ว! ผัดซีอิ๊วคือส่วนหนึ่งของร่างกายและชีวิตฉันเลย ฉันชอบกินมากขนาดนั้นเลยล่ะ! เวลาที่เดินทางไปทัวร์รอบโลก ฉันมักจะลองกินอาหารของท้องถิ่นนั้น ๆ แต่เมื่อไรก็ตามที่ฉันรู้สึกว่าคิดถึงรสชาติของผัดซีอิ๊ว ฉันก็มักจะหาร้านอาหารไทยเพื่อสั่งผัดซีอิ๊วกิน

- สุดท้ายนี้ อยากฝากข้อความถึงแฟน ๆ ชาวไทยที่ชื่นชอบดนตรีแจ๊สและกำลังรอคอยคุณอยู่สักหน่อยไหม

ฉันมีความสุขมากที่จะได้กลับไปเยือนเมืองไทย คิดเสมอว่ามันคือปาฏิหาริย์ที่พวกเราทุกคนสามารถอยู่ในสถานที่เดียวกันในเวลาเดียวกันได้ และในตอนที่แสดงสด ฉันจะเปรียบสถานที่แห่งนั้นเป็นยานอวกาศ เปรียบตัวเองเป็นกัปตัน และเปรียบผู้ชมเป็นผู้โดยสารที่มาขึ้นยานอวกาศเพื่อร่วมเดินทางไปด้วยกันกับฉัน

การได้เป็นส่วนหนึ่งบนยานอวกาศถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งเราทุกคนอาจไม่มีวันได้นั่งข้าง ๆ หรือรวมตัวกับผู้คนเหล่านั้นซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง นี่จึงถือเป็นประสบการณ์เพียงครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้น ฉันจึงตั้งใจทำการแสดงทุกครั้งราวกับว่านั่นคือครั้งสุดท้าย

ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตกับทุกคน! และนั่นคือคำมั่นสัญญาของฉันค่ะ

ติดตามผลงานและให้กำลังใจ Hiromi Uehara ได้ทาง
Website / YouTube / Instagram / TikTok / x / Facebook

PELUPO 2025

ห้ามพลาด! โอกาสที่จะได้ร่วมออกเดินทางและดื่มด่ำบรรยากาศของค่ำคืนแสนพิเศษผ่านดนตรีแจ๊สที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hiromi Uehara ด้วยกันใน PELUPO 2025 เทศกาลดนตรีนานาชาติของไทย ซึ่งปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว

โดยงานปีนี้ยังคงคอนเซ็ปต์ของค่ำคืนแรกกับ Friday maj7 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากคอร์ด maj7 สู่การคัดสรรไลน์อัพที่มีการผสมผสานของดนตรี Jazz, Soul, Funk, R&B และค่ำคืนที่สองที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับดนตรีหลากหลายแนวจากศิลปินระดับโลก รวมทั้งศิลปินหน้าใหม่ที่ฝีมือไม่ธรรมดา

14-15 มีนาคม ค.ศ.2025 ที่ Treasure Hill Golf Club สนามกอล์ฟ ชลบุรี
รายละเอียดเพิ่มเติม: คลิก


อ่าน “ONE N’ ONLY ความเป็นหนึ่งเดียวและความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเยือนประเทศไทยอีกให้ได้!คลิก

views