“แม้ว่าจะมาไกลจากความฝันในวัยเด็ก

แต่ผมก็ไม่ได้ทิ้งมันไปซะทีเดียว”

จากมนุษย์เงินเดือนบริษัทหนังสือพิมพ์ ผู้มีใจรักกีฬาเบสบอลตั้งแต่วัยเยาว์ ปัจจุบันกลายมาเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นย่านอ่อนนุช ที่มีบรรยากาศน่ารักเป็นกันเอง นอกจากความตั้งใจจะทำร้านอาหารญี่ปุ่นในแบบฉบับของตัวเองขึ้นมาแล้ว เขายังอยากให้คนญี่ปุ่นที่มาทำงานไกลบ้าน ได้ทานอาหารรสมือแม่ เพื่อบรรเทาความคิดถึงบ้านอีกด้วย

ก่อนจะมีร้านของตัวเอง ต้องผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์มากมายมาก่อน

“ผมเคยทำงานที่ร้านชาการิกิ 432 มาประมาณ 1 ปีครึ่ง เป็นช่วงเวลาที่ดีมากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานร้านอาหารมากมาย ทั้งเรื่องการจัดการ วิธีการทำงานของคนไทย และความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและไทยด้วย รวมทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของ ‘ภาษา’ พนักงานทุกคนในร้านล้วนใช้ภาษาไทย และไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น บางทีผมต้องใช้ท่าทางในการสื่อสารกับพวกเขา”

จนถึงวันที่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง

“คุณปู่และคุณย่าของผมเคยมีร้านอิซากายะที่โอซาก้า แต่ถูกปิดไปเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวฮันชินครั้งใหญ่ ผมจึงมีความตั้งใจจะสืบทอดร้านต่อ โดยมาเปิดสาขาที่เมืองไทย ซึ่งผมเองอยากให้ลูกค้าทั้งคนไทยและญี่ปุ่น ได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นที่ไม่ได้มีราคาแพงเลิศหรูอะไร แต่กลับเป็นอาหารพื้นๆ ที่ทุกคนสามารถทานกันได้จริงๆ ในชีวิตประจำวัน”

รู้สึกกังวลกับการเปิดร้านของตัวเองครั้งแรกไหม

“เพราะย่านอ่อนนุชนั้น ยังไม่มีร้านอาหารญี่ปุ่นมาก่อน ก็ทำให้มีความกังวลแต่พอได้มาเปิดร้านตรงนี้
ผมก็รู้สึกได้เลยว่าตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ”

เมื่อลูกค้าเปิดประตูเข้ามาจะพบว่าตัวเองอยู่ที่ญี่ปุ่น

“ผมอยากให้ลูกค้าใช้เวลานานๆ ในร้าน ทานไปคุยไป สัมผัสทั้งบรรยากาศและรสชาติอาหารที่มีความเป็นญี่ปุ่น 100 % สำหรับลูกค้าคนไทย ผมอยากให้ลองทานอาหารที่คนญี่ปุ่นนิยมทานกันในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่มีเฉพาะแค่ซูชิ หรือราเมน อาหารที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นนั้นยังมีอีกมากมาย และหลักๆ เลย สำหรับคนญี่ปุ่นที่มาทำงานไกลบ้าน
ผมอยากให้พวกเขาได้ทานอาหารรสมือแม่ อย่างที่พวกเขานึกถึง”

ความแตกต่างจากร้านอื่น ก็คือเจ้าของร้านจะเข้าไปทักทายราวกับคนในครอบครัว

“ผมตั้งใจจะพูดคุยกับพนักงานและลูกค้าคนไทยทุกคน แม้จะไม่ใช่ภาษาไทยที่ถูกต้อง ถูกไวยากรณ์นัก แต่เราก็พยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมมองว่าการพูดคุยนั้นเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อหลายๆ เรื่องระหว่างผมกับทุกคนได้”

อนาคตนอกจากเรื่องเปิดร้านอาหารแล้ว ยังอยากช่วยคนอื่นเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นด้วย

“ในอนาคตผมอยากเป็นที่ปรึกษาให้กับคนไทย ที่อยากทำร้านอาหารญี่ปุ่น ถ้ามีคนไทยอยากได้คำปรึกษา
ผมอยากให้ลองมาชิมอาหารที่ร้านของผมก่อน”

ถึงจะทำร้านอาหารแต่ก็ไม่เคยทิ้งความฝันในวัยเด็ก

“แม้ว่าสิ่งที่ทำอยู่จะมาไกลจากความฝันในวัยเด็กมาก แต่ผมก็ยังไม่ได้ทิ้งมันไปซะทีเดียว ทุกวันนี้ผมมีทีมเบสบอล
ของตัวเองชื่อทีมเจแปนเบสบอลคลับ สมาชิกก็มีทั้งคนญี่ปุ่นและลูกครึ่งไทย – ญี่ปุ่น
นอกจากมารวมตัวเล่นเบสบอลกันแล้วในอนาคตผมก็มีความตั้งใจว่าจะร่วมกันทำอาหารญี่ปุ่น
ไปแจกจ่ายแก่เด็กๆ ที่มีฐานะยากจนพร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องเบสบอลไปด้วยครับ”