MindaRyn กับการก้าวเป็นนักร้องเพลงอนิเมะ
“MindaRyn” (มายดาริน) หรือ มายด์ – ณัชชา พงศ์สุปาณี YouTuber ที่ได้รับความสนใจจากการร้องคัฟเวอร์เพลงอนิเมะญี่ปุ่น และเดบิวท์ในฐานะนักร้องที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ.2020 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ติดตามทางช่องยูทูบเกือบ 1 ล้านคน เรื่องราวก่อนที่มายด์จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้เป็นอย่างไรบ้าง ดาโกะจึงขอชวนคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น และร่วมพูดคุยถึงมุมมองของเธอที่มีต่อวงการบันเทิงไทยกัน!
เริ่มสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไร และทำไมถึงชอบอนิเมะของญี่ปุ่น
คุณพ่อของมายด์ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่แล้ว และชอบศิลปินญี่ปุ่นโดยเฉพาะวง “X-JAPAN” มาก ๆ ค่ะ นั่นจึงทำให้ได้มายด์รับอิทธิพลจากท่านมา และเริ่มสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนอนิเมะเรื่องแรกที่เคยดูน่าจะเป็นเรื่อง “Digimon Adventure” ตอนช่วงประถมค่ะ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ที่ดูตอนนั้นมันสนุกมาก ๆ รู้สึกว่าเนื้อเรื่องและคาแรคเตอร์มีเสน่ห์ แล้วพอเป็นการดูจากทีวี มันไม่สามารถกดข้ามเพลงเปิดเรื่องได้ ก็เลยนั่งฟังไป ร้องไปทั้งที่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ดูการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องอื่น ๆ เรื่อยมาค่ะ
ส่วนปัจจุบันที่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ยังไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ สถานที่ที่เกี่ยวกับอนิเมะในกรุงเทพฯ ที่มายด์ชอบไปก็คือ ร้าน “ANIMATE” ที่ ชั้น 7 ของห้างมาบุญครองค่ะ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ในกรุงเทพฯ ที่มายด์ชอบมาก ๆ ใครที่สนใจลองแวะไปที่ร้านกันได้นะคะ
เพราะชอบอนิเมะญี่ปุ่นก็เลยเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจทำช่อง YouTube ขึ้นมาหรือเปล่า
ถึงจะชอบอนิเมะญี่ปุ่น และร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่คนรอบตัวกลับไม่มีใครที่ชอบเหมือนกันอยู่เลย จึงอยากเริ่มทำช่อง YouTube ของตัวเองขึ้นมาเพื่อหาคนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กันค่ะ เพลงแรกที่ร้องคัฟเวอร์ในตอนนั้นคือเพลง “My Dearest” ของวง “supercell” ซึ่งเป็นเพลงประกอบอนิเมะเรื่อง “Guilty Crown” จากนั้นก็ได้รู้จักอนิเมะและอนิซองมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วพอเริ่มมีแฟน ๆ มากขึ้น ก็ทำให้ความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องอนิซองที่ญี่ปุ่นชัดเจนมากขึ้นด้วยค่ะ
อยากเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนไทย
การเดบิวท์ที่ญี่ปุ่น รวมทั้งการทำกิจกรรมในฐานะที่เป็นนักร้องเพลงอนิเมะเป็นอย่างไรบ้าง
ปี ค.ศ.2018 ตอนนั้นได้รับโอกาสและถูกทาบทามจากทางค่าย Yoshimoto Entertainment Thailand แล้วก็เริ่มทำกิจกรรมแบบจริง ๆ จัง ๆ เพื่อการเป็นมืออาชีพ ซึ่งตอนที่รู้ว่าจะได้เดบิวท์ที่ญี่ปุ่นก็มีความรู้สึกหลากหลายปนกันอยู่ค่ะ ทั้งดีใจมาก ๆ รู้สึก “เหมือนฝันเลย!” เพราะการได้ร้องเพลงประกอบอนิเมะสักเรื่องเป็นความใฝ่ฝันของมายด์มานานแล้ว แต่ในทางกลับกันก็มีทั้งความกังวล ความตื่นเต้น และความกลัวค่ะ แต่เพราะแฟน ๆ ทุกคนที่ดูช่องของมายด์ที่ยินดีและให้การสนับสนุนมายด์มาก ๆ เลยคิดว่าจะพยายามให้ดีที่สุด
และตั้งใจว่าจะการทำกิจกรรมในฐานสะพานเชื่อมระหว่างไทยและญี่ปุ่น อยากเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนไทย และเชื่อมญี่ปุ่นกับต่างประเทศด้วยความเป็นคนต่างชาติของตัวเองค่ะ อยากจะเป็นที่รักของคนญี่ปุ่นแล้วก็อยากจะส่งต่อเสน่ห์ของอนิเมะและอนิซองญี่ปุ่นไปทั่วโลก เพราะคนที่มองว่าอนิเมะเป็นสื่อสำหรับเด็กยังคงมีอยู่มากมาย แต่จริง ๆ แล้วอนิเมะมีเสน่ห์หลากหลายแบบที่สามารถเข้าถึงผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน!
นอกจากนี้ มายด์คิดว่าการฟังเพลงไปพร้อมกับการดูอนิเมะเรื่องนั้น ๆ จะทำให้เพลงมีเสน่ห์มากขึ้นอีกเท่าตัวเลยล่ะค่ะ
ตอนที่ต้องเดินทางไปฝึกและทำเพลงที่ญี่ปุ่น คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลบ้างหรือเปล่า
คุณพ่อคุณแม่กังวลที่จะต้องไปอยู่ญี่ปุ่น แต่ก็สนับสนุนเต็มที่เพราะเห็นว่าเป็นความฝันของลูก พวกท่านคอยให้กำลังใจมายด์ตลอดค่ะ อย่างคุณแม่ก็จะติดต่อหาทุกวัน มี VDO Call มาสอนทำอาหารด้วย ส่วนแฟน ๆ ก็ยินดีกับเราด้วยเหมือนกัน เขารู้อยู่แล้วว่าความฝันของเราคือการได้เดบิวท์ที่ญี่ปุ่น เขาก็ภูมิใจในตัวเราและสนับสนุนเราอย่างเต็มที่เลยค่ะ
ช่วยบอกความหมายของชื่อ MindaRyn หน่อย
ตอนเด็ก ๆ ชอบ “ส้มแมนดาริน” ค่ะ เลยเอามารวมกับ “มายด์” ชื่อเล่นของตัวเอง แล้วก็สามารถอ่านเป็น “My Darling” ได้ด้วยนะคะ
มีเทคนิคในการฝึกภาษาญี่ปุ่นอย่างไรบ้างเอ่ย
มายด์เริ่มสนใจภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ตอนที่ดูอนิเมะสมัยชั้นประถมแล้ว พอเข้าช่วงมัธยมต้นก็เรียนด้วยตัวเองผ่านหนังสือ “มินนะ โนะ นิฮงโกะ” แต่ด้วยความที่มันยากเกินไปเลยล้มเลิกกลางคัน ตอนที่เริ่มร้องเพลงอนิซอง ตอนนั้นไม่ได้มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเลย ใช้วิธีการฟังเพลงหลาย ๆ รอบ บางเพลงฟังเป็นร้อย ๆ ครั้งเพื่อให้ร้องได้ แล้วอ่านเนื้อเพลงและคำแปลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจความหมายของเนื้อเพลงและสื่อความรู้สึกของเพลงออกมาได้ มาพูดภาษาญี่ปุ่นได้จริง ๆ ก็ตอนที่เข้ามาอยู่ในค่าย Yoshimoto Entertainment Thailand ค่ะ
จุดที่มายด์ชอบเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นคือสำเนียงน่ารัก มีรายละเอียดในตัวเอง มีหลายระดับการใช้ ระดับความสุภาพ เป็นภาษาที่รู้เลยว่าเขาคิดมาอย่างดี ส่วนคำที่ชอบก็คือคำว่า “大丈夫” (Daijoubu) ที่แปลว่า “ไม่เป็นไร” เพราะใช้คำนี้บ่อยมาก ๆ เวลาที่ทำอะไรพลาดก็จะบอกตัวเองว่า “ไดโจบุ ไม่เป็นไรนะ” เป็นการให้กำลังใจตัวเองค่ะ
ช่วงที่ร้องเพลงคัฟเวอร์กับช่วงที่ได้เดบิวท์ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ก่อนจะเดบิวท์ มายด์ได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างเลย ทั้งเทคนิคการร้องเพลง การใส่ความรู้สึกเข้าไปในบทเพลง ถ้าเป็นการคัฟเวอร์เพลง ปกติก็จะใช้วิธีเอาความรู้สึกในเพลงนั้นมาถ่ายทอดต่อได้ง่าย เพราะมีตัวอย่างให้ดู แต่พอเป็นเพลงออริจินอลของตัวเองแล้ว ต้องพยายามใส่อารมณ์ ความรู้สึกเข้าไปด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเป็นเพลงภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ด้วย เลยต้องพยายามมากขึ้นไปอีกขั้นค่ะ
แล้วก็.. เพลงญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีอิมเมจของความน่ารักอยู่ แต่ว่าเสียงของมายด์ไม่ได้น่ารักขนาดนั้น ก็จะมีจุดเด่นที่อยู่กลางๆ ระหว่างเสียงโทนน่ารักกับเสียงเท่ ๆ ค่ะ
ตอนที่ได้ร้องเพลง “BLUE ROSE knows” ซึ่งเป็น Ending Song ประกอบอนิเมะเรื่อง “Kamitachi ni hirowareta otoko” รู้สึกอย่างไร
เป็นเกียรติมาก ๆ ที่ได้ร้องเพลงที่ใช้ประกอบอนิเมะค่ะ! อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตัวเอกชายหลุดไปอยู่ในโลกต่างมิติ เขาอยากจะมีชีวิตที่สนุกสนานและทำสิ่งที่ไม่เคยทำ เป็นเรื่องที่ใกล้เคียงกับชีวิตของมายด์มาก แล้วในเนื้อเพลงจะมีท่อนที่บอกว่า “Follow My Heart” คือให้ทำตามความฝัน ทำตามหัวใจ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเหมือนกับต่างโลกของมายด์ที่ต้องเดินทางจากบ้านไปตามหาความฝันเหมือนตัวเอกในอนิเมะเลยค่ะ
พูดถึงวงการบันเทิงในประเทศไทยบ้างดีกว่า บางด้านก็ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะเลย ว่าไหม
ถ้าพูดถึงอิทธิพลที่ได้รับมาจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น มายด์คิดว่าคงจะเป็นเรื่องไอดอลค่ะ ตอนนี้มีไอดอลกรุ๊ปใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ และไม่ได้มีแค่แนวน่ารัก ๆ เท่านั้น แต่มีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นแนวร็อคที่มี Performance ที่แข็งแรง หรือแนวเท่ ๆ ก็มีเช่นกัน อย่าง “SWEAT16” ที่มีคอนเซ็ปต์ Active & Sporty ที่อยู่ค่ายเดียวกับมายด์ คิดว่าเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ประเทศไทยได้อีกรูปแบบหนึ่งเลยค่ะ
แล้วถ้าให้แนะนำเกี่ยวกับวงการบันเทิงของไทย อยากแนะนำอะไรให้กับคนญี่ปุ่นบ้าง
สิ่งแรกที่อยากแนะนำเลยคือ ละครและภาพยนตร์ค่ะ อย่างซีรีส์ไทยเรื่อง “2gether” ก็ดังมาก ๆ ในญี่ปุ่น ซึ่งที่ไทยเองคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวความรักระหว่างชาย-ชาย หรือ BL ก็เป็นที่ได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าเป็น BL ซีรีส์ที่มายด์อยากแนะนำให้คนญี่ปุ่นดูก็คือเรื่อง “SOTUS” ค่ะ
และอีกอย่างหนึ่งที่อยากแนะนำคือภาพยนตร์แนวสยองขวัญ มายด์คิดว่าภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะแสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตของคนไทย แต่ภาพยนตร์แนวสยองขวัญเป็นภาพยนตร์ที่ถึงแม้จะไม่เข้าใจภาษาไทย แต่ก็สามารถสนุกไปกับภาพยนตร์ได้
ส่วนถ้าพูดถึง “ความเป็นไทย” อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถแสดงให้เห็นได้ก็คือ CM (โฆษณา) มีตั้งแต่มุขตลกที่เข้าใจง่าย ไปจนถึงสตอรี่ที่น่าประทับใจเหมือนละคร ถูกสร้างและถ่ายทอดออกมาในมุมมองของคนไทย ซึ่งมายด์คิดว่าจุดนี้ที่แตกต่างจากญี่ปุ่นก็น่าจะสนุกเช่นเดียวกันค่ะ
นักร้องเพลงอนิเมะ ก็ต้องมีการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบอยู่แล้ว!
มายด์ชอบเรื่องที่ให้ความกล้ากับเราโดยที่ไม่เกี่ยวกับอายุค่ะ สำหรับคนไทยนั้นมีความสนใจและชื่นชอบประเทศชอบญี่ปุ่นมานานแล้วนั้น การ์ตูนญี่ปุ่นได้รับความนิยมมาเนิ่นนาน และในช่วงนี้ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงขึ้นไปอีก ซึ่งการพูดคุยเรื่องอนิเมะหรือหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นก็ถือเป็นอีกหนึ่งในวิธีการสานสัมพันธ์กับทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นได้ดี การ์ตูน TOP 3 ที่มายด์ชอบมากที่สุดก็คือเรื่อง “Hunter × Hunter” ซึ่งเป็นเรื่องที่มีแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบเยอะมาก ๆ เหมือนกัน, “Hikaru no Go” (ฮิคารุ เซียนโกะ) และ “Violet Evergarden” ค่ะ ตอนที่ได้ดู Violet Evergarden: The Movie ตอนนั้นอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยไปดูคนเดียวที่ชินจูกุ เนื้อเรื่องดีมาก ๆ เศร้าสุด ๆ ออกจากโรงภาพยนตร์มาแล้วก็เดินร้องไห้กลับโรงแรม
สิ่งที่มายด์รู้สึกว่าทั้ง 3 เรื่องนี้มีเหมือนกันคือ “การไม่ยอมแพ้” ซึ่งเป็นสิ่งที่มายด์ได้จากการ์ตูนและถือว่าสิ่งนี้ได้ช่วยเหลือมายด์มาตลอดเลยค่ะ!
love my friends ผลงานดิจิตอลซิงเกิ้ลลำดับที่ 3
ในวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เธอได้ปล่อยดิจิตอลซิงเกิ้ลตัวล่าสุดออกมาให้ได้ฟังกัน โดยเพลงนี้ได้คุณมิซากิ นักร้องนำและมือกีตาร์วงร็อคอย่าง SpecialThanks เป็นผู้แต่งเนื้อร้องและทำนองเช่นเดียวกับเพลง BLUE ROSE knows เพลงเดบิวท์ของ MindaRyn ส่วนมิวสิควิดีโอได้ครีเอเตอร์อย่างคุณโทชิกิ โดอิ เป็นผู้ดูแลให้
สามารถดาวน์โหลดและฟังได้แล้วที่ https://lnk.to/LZC-1854
MindaRyn เดบิวท์ในฐานะศิลปิน เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2020 ด้วยเพลง “BLUE ROSE knows” ซึ่งเป็น Ending Song ประกอบอนิเมะเรื่อง “Kamitachi ni hirowareta otoko” ภายใต้ “Lantis” ค่ายเพลงของประเทศญี่ปุ่น และในช่อง YouTube ที่เธอนำเสนอคลิปร้องโคฟเวอร์เพลงประกอบอนิเมะญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ จากหลากหลายประเทศ ทั้งไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไต้หวัน และอเมริกา ปัจจุบัน เป็นศิลปินสังกัดค่าย Yoshimoto Entertainment Thailand
ติดตามและเป็นกำลังใจให้เธอได้ทาง
Homepage / YouTube / Twitter / Facebook / Instagram / TikTok