
Naoki Shimizu กับการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่อย่าง SUMMER SONIC
เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่ นาโอกิ ชิมิซุ (清水直樹, Naoki Shimizu) เปิดตัวธุรกิจบริษัทโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตที่มุ่งเน้นที่การเชิญศิลปินจากต่างประเทศมาที่ญี่ปุ่น รวมถึงการวางแผนจัดคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีต่าง ๆ มาตั้งแต่ ค.ศ.2000 อย่างเทศกาลดนตรีนานาชาติ SUMMER SONIC
เทศกาลดนตรีที่ถือเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นที่ศิลปินต้องเดินทางไปแสดงระหว่างสองเมือง ณ Fuji-Q Highland จังหวัดยามานิชิ และ WTC Open Air Stadium จังหวัดโอซาก้า ซึ่งถึงจะมีผู้ชมจำนวนน้อยกว่า SUMMER SONIC ในปัจจุบันมาก ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการจัดเทศกาลครั้งแรกที่น่าจดจำสุด ๆ เพราะมีทั้ง Green Day และ Jon Spencer Blues Explosion พร้อมด้วย Weezer, 311 และ The Flaming Lips รวมถึงศิลปินระดับตำนานอย่าง James Brown, Arrested Development และ Dragon เข้าร่วมเป็นไลน์อัพในครั้งนี้ด้วย
ดนตรีคือหนังสือเรียนของผม
นาโอกิ ชิมิซุ มีชีวิตวัยเรียนที่แสนสดใสในฐานะสมาชิกทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน แต่เพราะต้องฝึกซ้อมอย่างหนักจึงทำให้คะแนนเรียนของเขาลดลงอย่างต่อเนื่อง ในตอนนั้น ดนตรีจึงกลายเป็นสิ่งเดียวที่เขาชื่นชอบและให้ความสนใจ เขาฟังเพลงร็อคตะวันตกจำนวนมาก อ่านนิตยสารดนตรีมากมาย และไปที่ร้านเช่าแผ่นเสียงเพื่อเช่ากลับมาฟังที่บ้านทุกวัน
หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ชิมิซุย้ายไปอยู่ที่โตเกียว เข้าเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษา เพื่อที่จะทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านแผ่นเสียงและเรียนภาษาอังกฤษควบคู่กันไป ความใฝ่ฝันของเขาคือการได้ทำงานเกี่ยวกับดนตรี และนั่นคือสิ่งเดียวที่เขามีความคาดหวัง ดังนั้น เขาจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้ไปถึง ณ จุดนั้นในสักวันหนึ่ง ก่อนที่จะบังเอิญได้ทำงานพาร์ทไทม์ในบริษัทโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตตอนอายุ 21 ปี และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มทำงานในสายอาชีพนี้ของ นาโอกิ ชิมิซุ
นาโอกิ ชิมิซุ ได้สัมผัสประสบการณ์ของเทศกาลดนตรีเป็นครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ที่ Reading and Leeds Festivals ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 60,000 ถึง 100,000 คน เขารู้สึกประทับใจกับบรรยากาศในครั้งนั้นมาก ๆ จนคิดว่าสักวันหนึ่งก็อยากจะทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นให้ได้ เขาจึงเริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี ค.ศ.1990
หลังจากสั่งสมประสบการณ์โดยการเดินทางไปเยือนเทศกาลดนตรีในต่างประเทศหลากหลายครั้ง เขาก็เริ่มก่อตั้ง SUMMER SONIC ในอีก 10 ปีต่อมา โดยการตั้งเป้าหมายว่าอยากจะสร้างเทศกาลดนตรีที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ง่าย มีอุปสรรคในการเข้าร่วมน้อย และสามารถเดินทางไปกลับได้สะดวก ก่อนจะเลือกจัดงานในเมืองใหญ่สองแห่ง นั่นคือโตเกียวและโอซาก้า เนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวกจากทุกพื้นที่ในญี่ปุ่น ซึ่งในตอนแรกนั้น ทุกคนรอบตัวเขาต่างพูดว่า “มันเป็นไปไม่ได้” อย่างไรก็ตาม เขาและทีมงานก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถบริหารจัดการเวลาและทำให้สิ่งที่ตั้งใจไว้เกิดขึ้นได้
การเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของ SUMMER SONIC
SUMMER SONIC ที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานกว่า 23 ปี ในวันนี้ นาโอกิ ชิมิซุ ก็ได้เปิดโอกาสให้ตัวเองก้าวไปอีกระดับกับการพาเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่นี้ออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกกับ SUMMER SONIC BANGKOK
จัดโดยบริษัท Paradise E&A ซึ่งเป็น Sub-licensor และ BANGKOK CONNECT ผู้รับมอบสิทธิ์ต่อ หรือ Sub-licensee และเป็นโปรโมเตอร์ของการจัดงานนี้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2024 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี และได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศไลน์อัพชุดแรกไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา
ดาโกะเองมีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับคุณนาโอกิ ชิมิซุ ผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC และ CEO บริษัท Creativeman Productions ด้วย และจากประสบการณ์กว่า 30 ปี คุณนาโอกิ ชิมิซุ จะมีมุมมองความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดเทศกาลดนตรีนอกประเทศครั้งแรกนี้อย่างไรบ้าง มาทำความรู้จักเทศกาลดนตรี SUMMER SONIC BANGKOK ผ่านมุมมองการทำงานของคุณนาโอกิ ชิมิซุ ให้มากขึ้นกัน!
- จากเทศกาลดนตรีที่ปลุกปั้นขึ้นมาจนกลายเป็นเทศกาลดนตรีระดับแถวหน้าของเอเชีย คุณนาโอกิ ชิมิซุ มีความรู้สึกอย่างไรบ้างที่รัฐบาลไทยให้ความสนใจ SUMMER SONIC BANGKOK เป็นอย่างมาก
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าตกใจมาก ๆ เพราะในกรณีที่เป็นการแถลงข่าวเกี่ยวกับเทศกาลดนตรีในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะไม่ได้รับความสนใจจากนักข่าวมากมายขนาดนี้ และไม่ใช่งานประเภทที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมด้วย มันจึงทำให้ผมมองเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความสนใจและให้การสนับสนุนในเรื่องเกี่ยวกับดนตรีเป็นอย่างมาก อีกทั้งงานแถลงข่าวในวันนี้ยังทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยได้ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย
-จากวันที่เริ่มต้นจนกลายเป็นเทศกาล SUMMER SONIC ที่ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ ทางบริษัทต้องเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคอะไรบ้าง
อุปสรรคอย่างแรกที่ทางทีมเคยเจอคือตอนที่ James Brown ขึ้นแสดง ตอนนั้นเขาต้องขึ้นโชว์ก่อนวงเฮดไลน์ โดยเวลาของโชว์ที่วางเอาไว้คือ 1 ชั่วโมง แต่เขากลับแสดงเกินเวลาค่อนข้างนานซึ่งสำหรับประเทศญี่ปุ่นที่เรื่องเวลาถือเป็นมารยาทที่สำคัญมากแล้วนั้น ในมุมของผู้จัดงาน สิ่งนั้นจึงถือว่าเป็นปัญหา และถ้ามองลึกลงไป มันคือการจัดงานที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือตอนที่ Oasis เป็นเฮดไลน์ แต่ระบบจ่ายไฟกลับมีปัญหาจนทำให้ไฟดับทั้งสนาม ต้องระดมรถจ่ายไฟจากทุกที่มาที่งานและต้องใช้เวลากว่า 40 นาทีในการแก้ปัญหานี้ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทีมงานด้วยเช่นกัน
ผมมองว่าการที่เทศกาลดนตรีประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้ด้วยการจัดเทศกาลเพียงครั้งเดียว แต่มันเกิดจากการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง และปรับตัว ก่อนหน้านี้ทางเราจัดงานโดยเน้นวงดนตรีแนวร็อคเป็นวงเฮดไลน์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กระแสดนตรีที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ทำให้ทางเรามองว่าอยากจะให้ศิลปินหญิงอย่าง Beyoncé เป็นศิลปินเฮดไลน์บ้าง หรืออยากจะเพิ่มศิลปิน K-Pop เข้ามาในไลน์อัพบ้าง ผมมองว่าความสำเร็จเกิดจากการค่อย ๆ เรียนรู้และเติบโตครับ
-ในฐานะผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC มองว่าเทศกาลดนตรีมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไรบ้าง
ตัวผมเองมองว่า SUMMER SONIC มีผลต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เพราะว่ามีผู้ชมเดินทางจากต่างประเทศมาร่วมงานมากขึ้นทุกปี และตอนนี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็เริ่มให้ความสนใจ SUMMER SONIC มากขึ้นด้วย ดังนั้น ผมเองก็คาดหวังว่าการจัดเทศกาลดนตรีนี้ในประเทศไทยจะทำให้ผู้ชมจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยเดินทางมาร่วมชมเทศกาลและท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ
สำหรับที่ประเทศญี่ปุ่น การที่คนกว่า 3 แสนคนเดินทางมาร่วมงานนั้น ไม่ได้เพียงแต่เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมเทศกาลดนตรีนี้เพียงเทศกาลเดียว เพราะตั้งแต่ฮอกไกโดลงมาจนถึงโอกินาว่านั้นมีการจัดเทศกาลดนตรีแบบนี้เป็นประจำในแทบทุกจังหวัดอยู่แล้ว ส่วนศิลปินที่ขึ้นแสดงก็มีทั้งศิลปินท้องถิ่นหรือศิลปินในประเทศซึ่งนั่นทำให้ผู้คนในประเทศจำนวนมากเดินทางเพื่อไปร่วมเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ผมจึงมองว่าเทศกาลดนตรีเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้มาก ๆ เลยครับ
- สำหรับเทศกาลดนตรีที่จำเป็นต้องมีฐานแฟนเพลงเพื่อผลักดันให้เทศกาลสามารถจัดได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานนั้น ทางคุณนาโอกิ ชิมิซุ มีกลยุทธ์อย่างไรบ้างในการสร้างฐานแฟนเพลงกลุ่มนั้นขึ้นมาในประเทศไทย
ผมมองว่า SUMMER SONIC เป็นเทศกาลดนตรีที่หลาย ๆ คนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชนชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะในแถบเอเชียต่างรู้จักและให้การสนับสนุนเทศกาลนี้เป็นอย่างดี รวมทั้งเข้าร่วมชมเทศกาลนี้กันเป็นประจำอยู่แล้ว และสำหรับการจัดเทศกาลดนตรีนี้ขึ้นในประเทศไทย ผมมองว่าน่าจะเป็นการสร้างโอกาสในการเชิญศิลปินเอเชียมาจัดแสดงคอนเสิร์ตได้มากขึ้น และแน่นอนว่ากลยุทธ์ในการจัดเทศกาลดนตรีครั้งนี้อาจมีความแตกต่างจาก SUMMER SONIC ในประเทศญี่ปุ่นเล็กน้อย
อยากจะแชร์ไลน์อัพศิลปินให้ได้ใน 3 พื้นที่ ทั้งที่โตเกียว โอซาก้า และกรุงเทพฯ
- เคล็ดลับในการคัดเลือกไลน์อัพศิลปินให้มีความสมดุลระหว่างดนตรีแต่ละแนวและเหมาะกับกลุ่มผู้ฟังที่หลากหลายคืออะไร
ผมที่มีประสบการณ์ในการเดินทางไปดูเทศกาลดนตรีมาแล้วทั่วโลกจึงเข้าใจความรู้สึกของคนดูเป็นอย่างดี การเดินทางไปดูเทศกาลดนตรีในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกช่วยให้ผมได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่าวัฒนธรรมดนตรีของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร และช่วยให้ผมเข้าใจเทรนด์หรือกระแสดนตรีที่สามารถนำมาประยุกต์กับการจัดเทศกาลดนตรีได้ด้วย
มีหลายคนที่บอกกับผมว่าพวกเขาไป SUMMER SONIC หลายครั้งด้วยเหตุผลเรื่องไลน์อัพ และผมเองก็มองว่า SUMMER SONIC มีชื่อเสียงขึ้นได้เพราะการคัดเลือกศิลปิน มันเป็นการวางแผนโดยการใช้ศักยภาพของศิลปินที่มีพลังอยู่แล้ว ในอนาคต ผมจึงคิดไว้ว่าอยากจะแชร์ไลน์อัพศิลปินให้ได้ใน 3 พื้นที่ ทั้งที่โตเกียว โอซาก้า และกรุงเทพฯ ด้วยการเล่นแบบสลับวันกันแบบที่ทำที่โตเกียวและโอซาก้าอย่างในตอนนี้ซึ่งผมมองว่านี่คือจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของ SUMMER SONIC
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการทำสัญญากับเอเจนซี่ดูแลศิลปินจำนวนมาก บางเอเจนซี่มีศิลปินในสังกัดมากกว่า 50 ศิลปินซึ่งเอเจนซี่เหล่านี้ล้วนมีศิลปินอยู่ทั่วโลกทั้งในยุโรป อเมริกา เอเชีย และอื่น ๆ หน้าที่ของผมจึงเป็นการคอยจับตาดูว่าแต่ละเอเจนซี่มีศิลปินกลุ่มไหนที่น่าสนใจบ้างและน่าสนใจอย่างไร อีกทั้งผมยังฟังเพลงของศิลปินทุกคนที่ผมจะยื่นขอเสนอให้อีกด้วย เพราะผมมองว่าการยื่นข้อเสนอให้กับศิลปินที่คุณไม่รู้จักเพลงของพวกเขาถือเป็นเรื่องที่หยาบคาย และตอนที่ผมได้ดูการแสดงสดของแต่ละศิลปิน สิ่งสำคัญคือผมต้องลองนึกภาพตอนพวกเขาขึ้นแสดงที่ SUMMER SONIC ด้วยเช่นกัน นั่นทำให้ผมได้เห็นศักยภาพของศิลปินมากขึ้นและทำให้การติดต่อศิลปินราบรื่น รวดเร็วมากขึ้นด้วยครับ
-สำหรับ SUMMER SONIC ที่เป็นเทศกาลดนตรีนานาชาตินั้น หลังจากประกาศข่าว SUMMER SONIC BANGKOK แน่นอนว่ามีกลุ่มแฟนเพลงศิลปินญี่ปุ่นต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ทางผู้จัดมีการวางแผนในการเชิญศิลปินญี่ปุ่นมาร่วมงานเทศกาลในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน
ตั้งแต่ที่มีการวางแผนจัด SUMMER SONIC BANGKOK นั้น เพราะมีเสียงเรียกร้องค่อนข้างมาก ทางทีมงานจึงได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กันบ้างแล้ว โดยทางทีมงานตั้งใจว่าอยากจะให้มีศิลปินญี่ปุ่นเข้าร่วมงานครั้งนี้อย่างน้อย 2-4 วง หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางผมเองไม่ได้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียว การตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับทางทีมงานฝั่งไทยและฝั่งญี่ปุ่นที่จะต้องปรึกษาหารือกันอีกทีด้วย และ YOASOBI ก็ถือเป็นวงที่ทีมงานไทยและญี่ปุ่นได้หารือและมีความเห็นตรงกันว่าเป็นศิลปินญี่ปุ่นที่เหมาะจะขึ้นแสดงใน SUMMER SONIC BANGKOK ครั้งนี้
-แล้วคาดหวังกับจำนวนผู้ชมมากน้อยแค่ไหนสำหรับ SUMMER SONIC BANGKOK ครั้งแรก
จริง ๆ ผมเองก็อยากให้มีผู้ชมมา SUMMER SONIC BANGKOK เยอะ ๆ นะครับ อยากขายบัตรให้ได้เยอะ ๆ แต่เพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ยังไม่มีผลงานที่แสดงให้ทุกคนเห็นหรือเกิดความพึงพอใจ ทุกคนยังไม่เห็นภาพว่างานจะออกมาเป็นอย่างไร จึงอาจจะทำให้หลายคนยังลังเลว่าจะไปดีหรือเปล่า ส่วนเรื่องศิลปินนั้น เนื่องจากมีการติดต่อผ่านหลากหลายเอเจนซี่ จึงอยู่ระหว่างการดีลศิลปินเพิ่มเติมและยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ทั้งหมดว่าศิลปินที่เราอยากให้เข้าร่วมเทศกาลในครั้งนี้จะมีโอกาสมาแสดงที่นี่ด้วยหรือเปล่า
ผมจึงมองว่าจำนวนผู้ชมไม่ใช่สิ่งที่เราจะโฟกัสมากนักสำหรับปีแรก แต่จะเน้นไปที่การสร้างชื่อเสียง ผลงาน และความน่าเชื่อถือซึ่งจะส่งผลให้มีผู้ชมเดินทางมาร่วมงานในปีต่อ ๆ เยอะขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ทางเรามีโอกาสในการดึงศิลปินที่มีชื่อเสียงมาก ๆ มาร่วมงานได้อีกด้วย
-สำหรับ SUMMER SONIC BANGKOK ที่เลือกจัดในพื้นที่ร่มทั้งหมดซึ่งต่างไปจากที่ประเทศญี่ปุ่นที่มีการจัดกลางแจ้งให้สมกับการเป็นเทศกาลดนตรีฤดูร้อนด้วยนั้น มีแผนการอย่างไรบ้างในการสร้างความพิเศษให้กับงานในครั้งนี้
การจัดงานที่ประเทศไทยนั้นค่อนข้างท้าทายทีเดียวครับ อย่างแรกเลยคือผมได้ยินมาว่าอากาศเดือนสิงหาคมที่ประเทศไทยยังคงเป็นเดือนที่ร้อนมาก ๆ ทางผมจึงได้รับรีเควสต์มาเลยว่าต้องจัดงานแบบอินดอร์ แต่หลังจากนี้ไปคงต้องดูความเหมาะสมว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าจะจัดแบบเอาท์ดอร์ก็ต้องดูเรื่องสถานที่กันอีกว่าจะสามารถจัดที่ไหนได้บ้าง หรืออาจจะปรับเปลี่ยนช่วงเวลาหรือฤดูกาล รวมทั้งเรื่องศิลปินที่จะเลือกมาแสดงด้วย เพราะสมมติในอนาคตเราเลือกจัด SUMMER SONIC ที่ไทยในช่วงเดือนอื่น ศิลปินที่ทางเราติดต่อมาก็อาจจะต้องแชร์ไปขึ้นแสดงที่ประเทศญี่ปุ่นต่อซึ่งอาจจะต้องจัดภายใต้ชื่องานอื่น ๆ แทน สิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องมีการปรึกษา ทดลอง และปรับเปลี่ยนกันไปครับ
ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างจึงอาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการจัดวางไลน์อัพศิลปินได้เสมอ
-สำหรับ SUMMER SONIC ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการจัดการงานแทบทุกด้าน รวมทั้งตารางการขึ้นแสดงของศิลปินแต่ละคน แต่ละกลุ่มที่ขึ้น-ลงกันตรงตามเวลาสุด ๆ นั้น มีวิธีการอย่างไรที่จะรักษามาตรฐานนั้นไว้ใน SUMMER SONIC BANGKOK ด้วย
การจัดการตารางการขึ้นแสดงถือสิ่งที่สำคัญมากครับ การจัดเวทีให้อยู่ใกล้กันและตารางการขึ้นโชว์ของศิลปินที่มีเวลาเหลื่อมกันน้อยมากเป็นแผนที่ทางทีมงานได้วางไว้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่การจัดการเมื่อต้องจัดเทศกาลดนตรีที่ต่างประเทศนั้น ผมคิดว่ามันมีความยากอยู่ และสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการจัดการตารางเวลานี่แหละครับ เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องที่แฟนเพลงไม่อยากให้ศิลปินคนนี้ขึ้นแสดงในเวลาที่ซ้อนทับหรือตรงกันอีกศิลปินอีกคน อยากให้วงเล็กขึ้นแสดงก่อน ส่วนวงใหญ่อยากให้ขึ้นแสดงทีหลัง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ทีมงานจะต้องหาวิธีจัดการว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะสมและลงตัวที่สุด
จริง ๆ ที่ SUMMER SONIC ประเทศญี่ปุ่นก็เคยเกิดปัญหาแบบนี้เหมือนกัน มีอยู่ปีหนึ่งที่ Oasis และ The Black Crowes ขึ้นแสดงที่โอซาก้า และทั้งสองวงต่างมีชื่อเสียงในระดับใกล้เคียงกัน แต่เมื่อทั้งสองวงขึ้นแสดงเวลาเดียวกัน ผู้ชมจึงเลือกดู Oasis กันเยอะมาก และมีผู้ชมเลือกดู The Black Crowes น้อยในระดับเพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น จึงทำให้แฟนเพลงค่อนข้างโกรธเพราะหลายคนต่างก็อยากดูทั้ง 2 วง
ทางทีมงานจึงต้องหาวิธีการจัดการกับตารางเวลาที่ซ้อนทับกันอยู่ และตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการจัดการเวลาให้ในวันต่อมาที่โตเกียว โดยต้องยอมให้งานเลิกช้ากว่าเดิมและให้ The Black Crowes ขึ้นแสดงหลังจาก Oasis เพื่อให้แฟนเพลงมีโอกาสได้ดูทั้ง 2 วง
เรื่องระยะเวลาจัดการแสดงก็เช่นกัน ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น เทศกาลดนตรีส่วนใหญ่จะจบช่วงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ไม่เหมือนประเทศไทยที่เทศกาลดนตรีเลิกดึกมาก ๆ นี่จึงเป็นอีกเรื่องที่มีความแตกต่างและทางทีมงานต้องมีการวางแผนให้เหมาะสม ซึ่งจริง ๆ ที่ญี่ปุ่นเองก็มีข้อยกเว้นบ้างเหมือนกัน อย่างเทศกาลดนตรี Rising Sun Rock Festival ที่ฮอกไกโดซึ่งจะจัดทั้งวันทั้งคืนจนถึงเช้า และส่วนตัวผมเองมองว่าเป็นเทศกาลที่น่าสนใจมาก ๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปดูกันครับ
-ปิดท้ายการพูดคุยในครั้งนี้ด้วยศิลปินเฮดไลน์ที่คุณนาโอกิ ชิมิซุ ใฝ่ฝัน
ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา ผมมีศิลปินที่อยากจะให้มาขึ้นแสดงที่ SUMMER SONIC มากมายเลยครับ อย่างวง Bruce Springsteen ซึ่งเป็นศิลปินที่ผมชื่นชอบมาก ๆ และชื่นชอบมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้โอกาสที่จะติดต่อให้วงมาขึ้นแสดงได้เลย นอกจากนี้ยังมีศิลปินระดับตำนานอีกมากมายอย่าง Queen และอีกหลายหลายศิลปินที่ไม่สามารถติดต่อให้มาขึ้นแสดงได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง หรือศิลปินบางคนที่เสียชีวิตก่อนที่จะมีโอกาสได้ติดต่อให้มาแสดงที่งานอย่าง Prince เป็นต้น
อย่างไรก็ตามปัจจัยหลาย ๆ อย่างก็อาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการจัดวางไลน์อัพศิลปินได้เสมอ อย่าง SUMMER SONIC 2024 ที่ทางทีมงานเห็นว่าเทศกาลที่จัดขึ้นในปี ค.ศ.2022 และ 2023 ซึ่งมีการรผสมผสานระหว่างดนตรีร็อค ดนตรีกระแสหลักในอเมริกา และฮิปฮอปนั้นได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมเป็นอย่างดี ตอนที่ทางทีมงานวางแผนจึงได้มองศิลปินเฮดไลน์เป็นศิลปินเพลงป๊อปอย่าง Dua Lipa และ Billie Eilish ไว้ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจาก Dua Lipa จัดลำดับความสำคัญเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวของเธอก่อน และ Billie Eilish ที่วางแผนว่าน่าจะเริ่มต้นทัวร์และขึ้นแสดงในปีหน้ามากกว่าปีนี้
ท้ายที่สุด ด้วยกำหนดการที่เราตั้งไว้และเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน เมื่อเราคิดว่ามาถึงขีดจำกัดแล้วจึงได้กำหนดให้ Maneskin และ Bring Me the Horizon เป็นเฮดไลเนอร์คู่ของเทศกาลในปีนี้ โดย Maneskin ถือเป็นวงร็อคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีที่แล้ว รวมทั้ง Bring Me The Horizon ซึ่งเป็นศิลปินเฮดไลน์ในเทศกาลดนตรี NEX_FEST เมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับคำชื่นชมจำนวนมาก ดังนั้น เราจึงคิดว่าคงจะดีถ้าทั้งสองวงได้ขึ้นแสดงบนเวทีหลักนั่นเอง
และนี่คือประสบการณ์และมุมมองของคุณนาโอกิ ชิมิซุ (清水直樹, Naoki Shimizu) ที่รู้สึกว่าความฝันของตนถูกเติมเต็มมากที่สุดเมื่อตอนที่รู้สึกได้ว่าทุกคนสนุกไปกับเทศกาลดนตรีที่เขาจัดขึ้นมา
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
อ้างอิง
– https://www.ch-files.net/creativeman
– https://rockinon.com/blog/rockinon/209049
สำหรับไลน์อัพศิลปิน SUMMER SONIC BANGKOK เฟสที่สองนั้น ทางผู้จัดจะประกาศเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีทั้งศิลปินระดับโลก ศิลปินฝั่งเอเชีย รวมถึงศิลปินไทยมาร่วมงานในครั้งนี้อย่างเนืองแน่น เตรียมพร้อมกดบัตร แล้วไปสนุกกับดนตรีพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศที่ไม่แพ้ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ในงานครั้งนี้ โดยจะจัดขึ้นวันที่ 24-25 สิงหาคม 2024 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: คลิก
อ่าน “SUMMER SONIC BANGKOK เปิดไลน์อัพแรกสุดฮือฮา YOASOBI ที่ทุกคนรอคอย” คลิก