Pretty Proofreader: 4 ข้อที่เราได้เรียนรู้จากตัวละคร ‘โคโนะ เอ็ตสึโกะ’
คุณเคยถามตัวเองเกี่ยวกับงานที่กำลังทำอยู่หรือเปล่า ในบางวัน คุณอาจรู้สึกว่าไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่คุณได้ลงแรงทำไปเลยสักคน หรือในบางวัน คุณอาจถามตัวเองว่า งานที่ทำอยู่มันมีคุณค่าจริง ๆ หรือเปล่านะ เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนเคยรู้สึกและตั้งคำถามแบบนี้กับตัวเอง เพราะเราเองก็เป็นแบบนั้น
แต่การได้ดูซีรีส์เรื่อง “地味にスゴイ! 校閲ガール・河野悦子” (Pretty Proofreader) ซึ่งออกอากาศในปี ค.ศ.2016 หรือชื่อเรื่องภาษาไทยทาง Netflix คือ “พิสูจน์รัก พิสูจน์อักษร” ทำให้เราได้รับการเตือนสติ เหมือนโดนเพื่อนเขกหัวเบา ๆ แล้วบอกว่า “เฮ้ย! งานที่มึงทำอยู่ คนส่วนมากอาจจะมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนทำ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้นะเว้ย อย่าด้อยค่าตัวเอง เพียงเพราะคนอื่นไม่ได้รับรู้ว่ามึงทำดิ!” นั่นแหละ คือสิ่งที่ได้รับจากซีรีส์เรื่องนี้และมีผลต่อความคิดของเรามาก ๆ ซึ่งนอกจากแง่มุมที่ว่าแล้ว ก็ยังมีแง่มุมอื่น ๆ อีกหลากหลายแง่มุมที่เราได้เรียนรู้จาก “พิสูจน์รัก พิสูจน์อักษร” อีกด้วย
Pretty Proofreader ซีรีส์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง 校閲ガール (Koetsu Girl) ของ อายาโกะ มิยากิ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ ‘โคโนะ เอ็ตสึโกะ’ (รับบทโดย ซาโตมิ อิชิฮาระ) หญิงสาววัย 28 ปี ผู้หลงใหลและรักแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจ เธอมีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้เป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นที่เธอชื่นชอบ และในที่สุด เธอก็มีโอกาสได้เข้าทำงานในสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์นิตยสารดังกล่าว แต่แทนที่จะได้รับบทบาทบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นตามที่เธอใฝ่ฝันไว้ เธอกลับได้รับหน้าที่ “พิสูจน์อักษร” ณ แผนกพิสูจน์อักษร แทน
การไม่เกิดข้อผิดพลาดถือเป็นเรื่องดี
แต่ความจริงของชีวิต คือ เราไม่สามารถเลี่ยงทุกข้อผิดพลาดได้
จากความใฝ่ฝันที่จะได้ทำงานในกองบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่น LASSY เอ็ตสึโกะต้องมารับมือกับการพิสูจน์อักษร ตรวจความถูกต้อง มองหาจุดผิดพลาดในงานเขียนหลากแนวแทน
จุดเริ่มต้นของซีรีส์ ทำให้เราได้เรียนรู้งานเบื้องต้นของแผนกพิสูจน์อักษร ที่พอได้ดูปุ๊บ ทางเราก็รู้สึกอินปั๊บ! การได้เห็นตัวอักษรที่ถูกวงด้วยปากกาสีแดง เส้นที่ถูกลากมากมาย พร้อมคำอธิบายประกอบ ทำให้คนทำงานนิตยสารที่อยู่กับสิ่งเหล่านี้มาตลอด รู้สึกเหมือนได้นั่งดูเพื่อนกำลังตรวจงาน กำปากกาแดงในมือไว้แน่น และพร้อมมุดเข้าจอเข้าไปช่วยตรวจทุกเมื่อ (อินระดับนี้เลยแหละ)
แต่แน่นอนว่า ในชีวิตของคนเรานั้น ต่อให้พยายามใส่ใจรายละเอียด หรือตั้งใจตรวจสอบมากแค่ไหน ข้อผิดพลาดก็ย่อมเกิดขึ้นได้ เอ็ตสึโกะบอกกับเราว่า ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ หากช่วงระหว่างนั้น เราได้พยายามอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ก็จงอย่าเสียกำลังใจมากเกินไป และจงเตรียมพร้อมที่จะยอมรับความผิดพลาด มีสติที่พร้อมจะแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ อยู่เสมอ
ไม่ว่างานที่คุณทำอยู่จะเป็นงานที่คุณชอบหรือไม่ จงเผชิญหน้าและจริงจังกับมัน!
งานพิสูจน์อักษรอาจไม่ใช่งานที่เอ็ตสึโกะสนใจจะทำในตอนแรก แต่เอ็ตสึโกะก็ทำให้เราได้เห็นว่าเธอเต็มที่กับงานที่ต้องรับผิดชอบมากขนาดไหน ในขณะเดียวกันก็ได้เผยเสน่ห์ของงานพิสูจน์อักษรให้เราได้เห็นด้วยเช่นกัน
หลายคนอาจมองว่างานพิสูจน์อักษรเป็นเพียงแค่งานมองหาคำผิดเท่านั้น แต่ซีรีส์เรื่องนี้จะเผยให้เราได้เห็นรายละเอียดของงานพิสูจน์อักษรที่แสนจะลึกซึ้ง แม้กระทั่งคนทำนิตยสารอย่างเราก็คาดไม่ถึงหรือเคยมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป (และก็เป็นอีกครั้ง ที่รู้สึกเหมือนโดนเพื่อนเขกหัวเตือนสติว่า “ดูสิ่งที่ฉันทำไว้นะ! มันต้องขนาดนี้แหละ งานถึงจะออกมาดี!”)
เอ็ตสึโกะ รวมทั้งสมาชิกในทีมล้วนใส่ใจกับทุกตัวอักษร ความหมาย และเหตุการณ์ของเรื่องราวที่กำลังตรวจทานอยู่ มากกว่าการตรวจความถูกต้องของแต่ละคำแล้ว เธอยังใส่ใจในรายละเอียดอื่น ๆ ทั้งความถูกต้องของข้อมูล ความสมเหตุสมผลของเนื้อหา การเลือกใช้คำที่เหมาะกับช่วงเวลา รวมทั้งไม่ยอมปล่อยผ่านข้อสงสัยหรือข้อผิดพลาดต่าง ๆ ไปง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำการตรวจสอบให้เห็นกับตาอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้คนดูอย่างเราได้แต่รู้สึกทึ่งกับความทุ่มเทที่เธอใช้ในการพิสูจน์สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอให้ออกมาถูกต้องและดีที่สุด
ได้เห็นความใส่ใจของเอ็ตสึโกะ รวมทั้งคนอื่น ๆ ในเรื่อง ก็ทำให้รู้สึกขอบคุณพวกเขา เหล่าผู้พิสูจน์อักษรเป็นอย่างมาก ที่ช่วยให้หนังสือเล่มหนึ่งมันมีคุณค่าเพิ่มขึ้นมาได้อีก จากสิ่งที่พวกเขาตั้งใจทำ
จงเต็มที่กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความรัก หรือเรื่องอะไรก็ตาม
“เพราะทุกวันคือรันเวย์” สโลแกนนี้ช่างเหมาะกับเอ็ตสึโกะเหลือเกิน นอกจากชีวิตการทำงานที่เธอทำมันอย่างจริงจัง ความฝันที่เธอทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่ และความรักที่เธอซื่อตรงกับความรู้สึกอย่างที่สุดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เธอเต็มที่มาก ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของแฟชั่น สิ่งที่เธอชื่นชอบและหลงใหลนี่แหละ
ตลอดทั้ง 10 ตอน นอกจากจะต้องลุ้นกับเรื่องงาน รวมทั้งเรื่องความรักของเอ็ตสึโกะ ก็ต้องมานั่งลุ้นด้วยว่า จะได้เห็นเธอแต่งตัวแบบไหนในแต่ละตอน เธอเต็มที่กับการมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดทุกชุด สมกับความรักที่เธอมีให้กับโลกแฟชั่นมาก ๆ จนทำให้คนดูอย่างเราพลอยสนุกไปกับเรื่องแฟชั่นด้วย ถึงแม้จะไม่ได้สนใจเรื่องแฟชั่นมากเท่าไรก็ตาม และในมุมมองของเรา Pretty Proofreader ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงละครเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็น Lookbook เป็นคลัง OOTD (Outfit of the day) ให้กับคนดูได้อีกด้วย
เนี่ย! พอได้เอ็ตสึโกะเต็มที่กับทุกอย่างในชีวิตของเธอ ก็ทำให้เราสัมผัสและรู้สึกได้ว่าชีวิตของผู้หญิงคนนี้ช่างน่าสนใจเสียจริง พร้อมหันกลับมาถามตัวเองว่า “เราจะเต็มที่กับชีวิตได้มากเท่ากับที่เธอเต็มที่ได้หรือเปล่านะ”
Pretty Proofreader บอกเราว่า “ทุกอาชีพล้วนมีคุณค่า”
ประเด็นนี้ไม่ได้ถูกเล่าผ่านเอ็ตสึโกะโดยตรง แต่ถูกเล่าผ่านมุมมองของยูกิโตะ โอริฮาระ (รับบทโดย มาซากิ สุดะ) พระเอกของเรื่อง ซึ่งเป็นอีกคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจของเรื่องนี้
ในตอนที่ยูกิโตะกำลังสับสนในเส้นทางเดินของชีวิต และตัดสินใจออกค้นหาคำตอบว่าอะไรคือสิ่งที่ตนอยากจะทำ อยากจะเขียน โดยมีชีวิตของเอ็ตสึโกะเป็นแรงบันดาลใจนั้น เขาได้ค้นพบว่า มีอาชีพมากมายบนโลกใบนี้ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไปหรือไม่ได้นึกถึงสักเท่าไรนัก และตัดสินใจที่จะเขียนหนังสือสารคดี เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวอาชีพเหล่านั้นผ่านงานเขียนของตน อย่างอาชีพที่คอยตรวจสอบเครื่องเล่นตามสนามเด็กเล่น ที่ทำให้เด็ก ๆ สามารถเล่นเครื่องเล่นเหล่านั้นได้อย่างสนุกสนานและไม่เกิดอันตราย อาชีพที่ต้องคอยตรวจสอบสะพานข้ามแม่น้ำอันสูงใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ใช้สะพานดังกล่าวสัญจรไปมา หรืออาชีพนักพิสูจน์อักษรที่การตรวจงานเขียนของพวกเขา ทำให้คนอ่านสามารถอ่านหนังสือแต่ละเล่มได้อย่างเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ฯลฯ อาชีพเหล่านี้ ล้วนทำให้คนหมู่มากสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันของพวกเขาและเธอได้อย่างไม่มีสะดุด
และสิ่งที่โอริฮาระทำนั้น นอกจากจะช่วยดึงสติของเอ็ตสึโกะให้หลุดออกจากวังวนของคำถามที่ว่า “งานที่ทำอยู่มันมีคุณค่าจริง ๆ หรือเปล่านะ” ได้แล้ว ก็ยังช่วยดึงสติให้กับคนดูอย่างเราด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่เพียง 4 ข้อที่เราได้เรียนรู้จากซีรีส์เรื่องนี้ แต่ยังมีแง่มุมอีกมากมายจากตัวละครแต่ละตัวในแต่ละตอนที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย เพราะฉะนั้นซีรีส์เรื่อง “地味にスゴイ! 校閲ガール・河野悦子” จึงเป็นอีกเรื่องที่เราอยากแนะนำให้คุณดู หรือแม้ว่าคุณจะเคยดูมาแล้ว ในวันที่คุณกำลังสับสนหรือตั้งคำถามกับชีวิตงานของตัวเอง เราก็อยากให้คุณได้ลองดูเรื่องนี้อีกสักรอบด้วยเช่นกัน
ดู Pretty Proofreader ทาง Netflix คลิก
อ้างอิง
– www.ntv.co.jp/jimisugo
– https://twitter.com/jimisugo
– https://kai-you.net/article/33981
– https://vod-halloffame.com/tv-drama/21864.html
เรื่อง: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
อ่าน “Kumiko, the Treasure Hunter โศกนาฏกรรมจริงของสาวโสดอายุ 30 ที่เชื่อเรื่องโกหก” คลิก
“5 Musical theaters in Japan” คลิก
“สุขสันต์วันเด็กผู้ชาย! เซย์ไฮตัวละครรุ่นลูกจากมังงะรุ่นเก๋า” คลิก