หยุดเวลาเพื่อพักกายและใจที่ Sai Kaew Beach Resort เกาะเสม็ด
sai kaew
สถานการณ์หลายๆ อย่างในปีที่ผ่านมาไม่ได้ดีต่อใจมากเท่าไรนัก ร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าย่อมต้องการธรรมชาติมากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าจะขึ้นเขาหรือลงทะเลสักกี่ครั้งก็ไม่เพียงพอต่อจิตใจบอบช้ำนี้ (เหมือนที่รู้สึกว่านอนเยอะมากแค่ไหนก็ไม่เคยพอ ฮ่าฮ่าฮ่า) เมื่อปลายปีที่ผ่านเราจึงออกเดินทางเพื่อหาสถานที่สักแห่งให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน ให้สายลมและเสียงคลื่นช่วยปลอบประโลมอยู่หลายครั้ง และแน่นอนว่าพนักงานเงินเดือนอย่างเรานั้น… จะให้หยุดยาวก็คงทำไม่ได้ ทะเลสักแห่งที่เดินทางได้สะดวกและอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ มากนักจึงเป็นคำตอบสำหรับทริปนี้
เกาะเสม็ดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เราคิดถึงเป็นอันดับแรกๆ เพราะเคยไปพักที่อ่าวพร้าว รีสอร์ท (Ao Prao Resort) แล้วรู้สึกประทับใจทั้งในเรื่องของสถานที่และบริการ ครั้งนี้เราจึงตัดสินใจเลือกพักที่ “ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท” (Sai Kaew Beach Resort) โรงแรมในเครือเดียวกันกับอ่าวพร้าว รีสอร์ทเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศสักเล็กน้อย
ถนนยมจินดา ย่านเก่าเมืองระยอง
ก่อนเดินทางข้ามเรือไปยังเกาะเสม็ด เราขอแวะท่องเที่ยวตัวเมืองระยองกันสักหน่อย เพราะมาระยองทีไรก็ข้ามตรงไปเกาะเสม็ดเลยตลอด ถนนยมจินดาเป็นถนนสายแรกของเมืองระยองที่ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำระยอง เป็นแหล่งการค้าแห่งแรกของเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกในอดีต ซึ่งชาวเมืองระยองและคนในชุมชนได้ตั้งกลุ่มชมรมอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองเก่าระยองขึ้นมาในภายหลัง เพื่อช่วยกันฟื้นฟูย่านชุมชนเก่าแห่งนี้ให้กลับมาคึกคัก และทำให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสเสน่ห์ของย่านเก่าแก่แห่งนี้อีกครั้ง โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์จะมีการปิดถนนเพื่อเปิดเป็นถนนคนเดินด้วย
อาคารบ้านเรือนในแถบนี้จะเป็นอาคารทรงเก่าที่นิยมสร้างกันในอดีต ตามตึกรามบ้านช่องมีภาพวาดน่ารักๆ บนฝาผนังให้เราได้แวะถ่ายรูปเล่นเป็นระยะ และมีพิพิธภัณฑ์เมืองระยองที่มีของเก่ามากมายเรียงรายให้เราได้เดินชมและชวนระลึกถึงอดีต ด้วยความที่เราเดินทางไปถึงย่านนี้ในช่วงเวลาสายๆ ของวันธรรมดา ร้านรวงต่างๆ จึงยังไม่ค่อยเปิดกันนัก เราจึงตัดสินใจเดินไปฝากท้องที่ตลาดเทศบาล 1 และค้นพบร้านบะหมี่ไข่ที่อร่อยมากๆ ร้านหนึ่ง ณ ตลาดแห่งนี้ ก่อนจะตบท้ายด้วยของหวานคือโรตีกรอบราดนมข้นหวานและผงไมโลที่ร้านเชย (ขออภัยที่ไม่มีรูปร้านบะหมี่ไข่ ความอร่อยมันทำให้เราเบลอ นึกได้อีกทีว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปก็ตอนที่กำลังนั่งเรือข้ามไปเกาะเสม็ดซะแล้ว)
และเมื่อเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางมุ่งตรงสู่ท่าเรือเพื่อนั่งสปีดโบ้ทของโรงแรมจากท่าเรือบ้านเพข้ามไปยังเกาะเสม็ด!
ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่แท้จริง!
ออกเดินทางจากท่าเรือบ้านเพด้วยเรือสปีดโบ้ทรอบเวลา 13.30 น. ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็เดินทางถึงท่าหน้าด่าน ท่าเรือหลักของเกาะเสม็ด โดยมีพนักงานจากรีสอร์ทมายืนรอต้อนรับเราบริเวณจุดตรวจก่อนเข้าเกาะ (ปกติสามารถนั่งเรือสปีดโบ้ทเทียบหาดของที่พักได้เลย แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงมีการปรับเปลี่ยนให้ทุกคนที่เดินทางเข้าเกาะเสม็ดต้องผ่านจุดตรวจที่ท่าหน้าด่านก่อน)
พอถึงที่พักเราก็ทำการเช็คอินและระหว่างรอห้องพร้อมก็ใช้เวลาที่มีอยู่เดินชมบรรยากาศโดยรอบรีสอร์ทและกินมื้อเที่ยงที่ห้องอาหารเดอะ ซี ห้องอาหารเปิดโล่งที่ตั้งอยู่ริมชายหาด สามารถมองเห็นวิวทะเลและหาดทรายแก้วที่สวยงาม มีบริการทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติที่หลากหลาย ซึ่งอาหารไทยที่ร้านนี้รสชาติจัดจ้านกำลังพอดี อร่อยถูกปากมากๆ
กินอิ่มแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน รับกุญแจห้องพักปุ๊บ เราก็ตรงดิ่งเข้าห้องพักไปนอนตีพุงเล่นในทันที (ทำแบบนี้ไม่ดีนะ ระวังกรดไหลย้อน ฮ่าฮ่า) ห้องพักที่เราเลือกเป็นห้องประเภท “ดีลักซ์พรีเมียร์” (Deluxe Premier Room) ราคาปกติอยู่ที่ 11,900 บาท/คืน ซึ่งตอนที่จองเราเลือกใช้สิทธิ์ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เลยทำให้ได้ห้องพักในราคาที่ประหยัดลงมาอีกหลายบาทเลยล่ะ ตัวห้องพักกว้างขวาง มีระเบียงส่วนตัว และเพราะห้องที่เราได้พักอยู่ชั้นล่างจึงมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ ชายหาดและทะเลที่ทอดยาวจนสุดสายตา เหมาะแก่การนอนอ่านหนังสือหรืองีบผ่อนคลายรับลมทะเลจากริมระเบียงมากๆ
ชมวิวพระอาทิตย์ตกริมหาดที่อ่าวพร้าว
อ่านหนังสืออยู่ดีๆ ก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เราจึงนั่งรถของรีสอร์ทเพื่อไปยังห้องอาหาร “O” ของ เลอวิมานคอทเทจแอนด์สปา (Le Vimarn Cottages & Spa) ที่เราจองโต๊ะสำหรับมื้อค่ำไว้เพราะห้องอาหารตั้งอยู่ริมหาดอ่าวพร้าวซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเกาะเสม็ดนั่นเอง
พอไปถึงที่อ่าวพร้าว เดินเล่นริมหาดได้ไม่นาน พระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลดต่ำลาเราไป สีของท้องฟ้าในตอนนั้นสวยงามมากๆ เสียดายที่เมฆเยอะไปหน่อย เลยมองเห็นพระอาทิตย์สีแดงสดไม่ค่อยชัดนัก
จุดเด่นของห้องอาหาร “O” คือเมนูอาหารอิตาเลียนและเมนูพิซซ่าที่อบใหม่ร้อนๆ ส่งตรงจากเตาตามออเดอร์ซึ่งเราสามารถไปยืนชมขณะที่เชฟกำลังทำพิซซ่าได้ด้วย นอกจากเมนูอาหารอิตาเลียนแล้ว อาหารไทยของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน ขอแนะนำให้ลองน้ำพริกมะม่วงกุ้งสดที่เสิร์ฟพร้อมผักต้มแบบจัดเต็ม ส่วนเมนูของหวานที่พลาดไม่ได้เลยก็คือกล้วยย่างขมิ้น เมนูโบราณหน้าตาธรรมดาๆ แต่อร่อยระดับเทพเลยล่ะ!
Just chill and relax ~
และอย่างที่เราเกริ่นไว้ในตอนต้นว่าทริปนี้เป็นทริปเพื่อพักกายพักใจ เพราะฉะนั้นวันที่ 2 ของทริปเราจึงไม่มีแผนเดินทางไปที่ไหนใดๆ ทั้งสิ้น แผนหลักคือกิน พายคายัค เล่นน้ำ กิน พักผ่อน นวดที่สปา กิน แล้วก็นอน (ฮ่าฮ่าฮ่า)
ทรายแก้ว บีช รีสอร์ทมีบริการบุฟเฟ่ต์สำหรับอาหารเช้าที่ห้องอาหารเดอะ ซี ไลน์อาหารมีทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ กินมื้อเช้าไปด้วย รับวิตามินดีจากแสงแดดยามเช้าที่ริมหาดไปด้วย ชิลสุดๆ พออาหารย่อยเรียบร้อย เราก็ยืมเรือคายัคที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ไปพายเล่นบริเวณริมหาด เรียกเหงื่อได้นิดหน่อย ก็โดดลงทะเลเล่นน้ำต่อ ก่อนจะกลับห้องพักผ่อน แล้วเดินไปที่ศูนย์สุขภาพทรายแก้ว (SAIKAEW WELLNESS CENTER) เพื่อใช้บริการนวดแผนไทยและทำทรีทเมนท์ตามที่ได้ทำจองไว้
ที่ศูนย์สุขภาพทรายแก้วนั้นรายล้อมด้วยต้นไม้ แม้กระทั่งในห้องสปาก็ยังมีต้นไม้ต้นใหญ่โตทะลุหลังคาขึ้นไป ได้บรรยากาศแบบธรรมชาติสุด หลังรู้สึกผ่อนคลายจากการนวดและทำทรีทเมนท์แล้ว เราก็เดินต่อไปยังอีกฝั่งของที่พักซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพักประเภทค็อทเทจ เพื่อไปนั่งเล่นบริเวณริมหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบ ไร้ผู้คน และอากาศดีสุดๆ นั่งเล่นนั่งคุยบนสนามหญ้าที่อยู่ริมหาด รับลมทะเล และมองคลื่นที่กระทบโขดหินไปเรื่อยๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ และให้ธรรมชาติได้ทำหน้าที่ของมัน แค่นี้ก็ถือเป็นการชาร์จพลังกายพลังใจได้แล้ว!
คืนนั้นเราปิดท้ายทริปด้วยการกินมื้อค่ำ นั่งดื่มชิลๆ และฟังดนตรีสดที่ห้องอาหารเดอะ ซีกันอีกมื้อ ก่อนจะตื่นเช้ามาเตรียมตัวเช็คเอาท์และเดินทางกลับกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ได้พักผ่อนทางกายและใจอย่างแท้จริง พลังในการใช้ชีวิตเพิ่มกลับมาได้อีก 80% ถ้ามีเวลานานกว่านี้อีกหน่อยต้องเต็มร้อยแน่นอน!
ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท (Sai Kaew Beach Resort)
ที่ตั้ง : หาดทรายแก้ว เกาะเสม็ด เลขที่ 8/1 หมู่ 4 ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง 21160
โทรศัพท์ : 038-644-195 – 200, 061-413-8459 – 62
เว็บไซต์ : www.samedresorts.com/saikaew/th/index.html
Facebook : www.facebook.com/Samed.Resorts
ราคาห้องพัก : 9,400 – 11,900 บาท/คืน (รวมอาหารเช้าและบริการเรือรับ-ส่งจากท่าเรือบ้านเพ จ.ระยอง ตามรอบเวลาที่กำหนด)
โปรโมชั่น : คลิก
เรื่องและภาพ : ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
ชวนเที่ยวเมืองไทย
🌼”Safari World โลกซาฟารีที่ไม่ต้องเดินทางไกล” คลิก
🌼”ชวนติดเกาะ 3 วัน 2 คืนกับกิจกรรมสุดเพลิดเพลินที่เกาะสมุย (Koh Samui)” คลิก
🌼”ภูเก็ตที่มากกว่าทะเล ณ CHALONG BAY Distillery” คลิก
