Shoplifters ครอบครัวที่ลัก พร้อมกัน 2 สิงหาคมนี้ -

Shoplifters หรือ 万引き家族 ภาพยนตร์ญี่ปุ่น ผลงานผู้กำกับโคเรเอดะ ฮิโรคาสุ ที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ(Palm D’Or) ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 71 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้จัดอย่าง Mongkol Cinema ก็ไม่พลาดที่จะคัดสรรภาพยนตร์ดีๆ มาให้ชมกันอีกครั้ง เข้าฉายวันที่ 2 สิงหาคม 2018 ที่ SCALA และ House RCA ค่ะ

ทางทีมงาน DACO ได้มีโอกาสไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนในงาน KORE-EDA RETROSPECTIVE 2018 ซึ่งรวบรวมผลงานเก่าๆ ของผู้กำกับโคเรเอดะ ฮิโรคาสุ ทั้งหมด 8 เรื่อง อาทิ Air Doll , Our Little Sister , After the Storm เป็นต้น มาฉายรวมภายในงานนี้ ระหว่างวันที่ 27 – 30 กรกฎาคม 2018

จึงมาเชิญชวนผู้อ่านให้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้กัน

Shoplifters ครอบครัวคนจนธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

เนื้อเรื่องเปิดมาด้วยการลักเล็กขโมยน้อยตามชื่อเรื่องของโอซามุและโชตะ ระหว่างทางกลับบ้าน พวกเขาได้เจอ ยูริ เด็กหญิงตัวน้อยอยู่ตัวคนเดียว จึงตัดสินใจพาเธอกลับมาบ้าน แม้โนบุโยะ จะไม่ค่อยเห็นด้วยนักในตอนแรก จากนั้นเรื่องราวก็ดำเนินไป ถ้าไม่นับความสามารถในการแอบหยิบนู่นนี่ขโมยของ ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของครอบครัวคนจนทั่วๆ ไป ที่มีพ่อ แม่ ลูก น้า และยาย หาเช้ากินค่ำ ลำบาก แต่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอบอุ่น

ทว่า.. ตัวละครแต่ละตัวค่อยๆ คลายปมของตัวเองออกมาเรื่อยๆ จนจบเรื่อง เผยสาเหตุและได้เห็นผลของการกระทำของแต่ละบทบาท แง่คิดของครอบครัวที่สุดท้ายไม่ได้ชี้นำว่าสิ่งที่ตัวเอกแต่ละคน กับที่สังคมคิดนั้นดีหรือไม่ ให้ผู้ชมได้กลับไปคิดและหาคำตอบของตัวเอง

นักแสดงโดดเด่น มีซีนทุกบทบาท

ตัวละครแต่ละบทในเรื่อง เรียกได้ว่ามีซีน มีความโดดเด่นของตัวเอง ทำให้เราคิดว่าตัวหนังไม่ตีกรอบความคิดให้เราคล้อยตามตัวเอกตัวใดเพียงตัวเดียว

นักแสดงเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความสมจริงของบทบาทผู้ใหญ่และ ความน่ารักน่าเอ็นดู สมวัยของบทเด็กๆ

บทโอซามุ โดย คุณลิลี่ แฟรงกี้ ที่นับเป็นนักแสดงขาประจำของภาพยนตร์ของผู้กำกับโคเรเอดะ เคยแสดงทั้ง Like Father, Like Son , After The Storm , Our Little Sister มาแล้ว รู้ศักยภาพระหว่างกันและกันดีว่าต้องแสดงอย่างไร เหมาะสมกับบทบาทไหน

บทโนบุโยะ โดยคุณอันโด ซากุระ ที่เธอคิดว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนคงแสดงในบทบาทแม่แบบนี้ไม่ได้ จนเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องแรกที่ได้แสดง หลังจากเป็นคุณแม่ในชีวิตจริงมาหมาดๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับแม่เลยเปลี่ยนไป

บทคุณยายฮัตสุเอะ โดยคุณคิคิ คิริน นักแสดงหญิงเข้าวงการมานับ 50 ปี เคยเข้าชิงและคว้ารางวัลมาแล้วหลายเวที รวมถึงให้ได้สัมภาษณ์ว่าอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่เล่น ด้วยวัยและปัญหาสุขภาพ

บทอากิ โดยคุณมัตสึโอกะ มายุ ที่เคยเห็นบทบาทการแสดง จากซีรีย์และภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง สิ่งที่เธอเหมือนกับบทบาทอากิในเรื่อง คือเธอมีน้องสาวที่เคยอยากเป็นนักแสดงเหมือนกัน เลยต้องแข่งขันกันตลอดเวลา และตอนนั้นรู้สึกลำบากใจจริงๆ

และที่ขาดไม่ได้ คือบทเด็กๆ 2 คน ได้แก่ บทโชตะ โดยน้องโจ ไคริ และ บทยูริ โดยน้องซาซากิ มิยุ ที่แสดงได้เป็นธรรมชาติมากๆ ไร้เดียงสา ยิ่งจากบทสัมภาษณ์ ได้ถามความรู้สึกตอนอยู่กับครอบครัวนี้ น้องไคริบอกว่า “รู้สึกอบอุ่นมาก แต่การลักขโมยเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่ควรทำนะครับ” และน้องมิยุ ถูกถามว่าตอนที่เดินพรมแดง มีคนถ่ายรูปเยอะแยะเลย รู้สึกยังไงบ้าง น้องตอบว่า “หนูง่วงค่ะ” ทำให้พลอยยิ้มตามอย่างเอ็นดู

ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานฟิล์ม

สิ่งที่ขาดไม่ได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ เสน่ห์ของงานภาพจากฟิล์ม 35 มม. โดยผู้กำกับภาพคอนโดะ ริวโตะ ที่พึ่งได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับโคเรเอดะเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการติดต่อมาหลายครั้ง

แม้การถ่ายภาพยนตร์ด้วยฟิล์มจะใช้งบประมาณสูงกว่า แต่ผู้กำกับก็ยังยืนยันว่าจะถ่ายด้วยฟิล์ม คุณคอนโดะจึงกล่าวว่า “กระบวนการถ่ายหนังแบบนี้ ที่ต้องเปลี่ยนฟิล์มทีละม้วน เข้ากับสไตล์ของโคเรเอดะมาก และคิดว่า texture ของภาพที่ได้ก็เหมาะกับเรื่องราวด้วย”

การปรับเปลี่ยนโอกาสในการถ่ายภาพ ตามโอกาส เมื่อพยากรณ์อากาศแจ้งว่าจะเกิดหิมะตกหนักในโตเกียวในวันที่จะถ่ายฉากที่ว่านี้ ทีมงานทุกคนไม่มีใครหนักใจกับเรื่องนี้เลย พวกเขาใช้โอกาสนี้เพื่อถ่ายทำฉากหิมะตก ที่กลายเป็นหนึ่งในฉากที่งดงามที่สุดในหนัง นอกจากนั้นผู้กำกับจะคอยเช็คแต่ละฉากว่าเป็นไปตามที่คิดหรือไม่ ถ้าคิดว่าต้องถ่ายเพิ่มก็ถ่ายเลย โดยไม่ได้อิงตามบทที่เขียนทั้งหมด