Spirited Away
ถ้าพูดถึง Studio Ghibli เราเชื่อว่าการ์ตูนเรื่อง Spirited Away ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ จะขึ้นมาในใจเป็นอันดับแรกๆ ของใครหลายคน ซ้ำยังการันตีความดีงามด้วยการคว้ารางวัลอนิเมะเรื่องแรกที่คว้ารางวัล Best Animated Feature จากออสการ์ ครั้งที่ 75 คว้ารางวัลโกลเดนแบร์ ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน และรางวัลอื่นรวมกว่า 20 รางวัล เวลาได้คุยเกี่ยวกับอนิเมะในดวงใจหรืออนิเมะที่อยากให้ดูมากที่สุด ทุกคนก็มักพูดถึงเรื่องนี้เสมอ (พร้อมทั้งก่นด่าอีกเล็กน้อยว่ามันเป็นไปได้รึที่จะไม่ดูน่ะ มันมาสเตอร์พีซเลยนะเฮ้ย!) เพราะมันไม่ได้มีภาพสวยงาม ผสมผสานไปกับความเชื่อเรื่องลี้ลับของญี่ปุ่น แต่มันยังสอดแทรกไปด้วยแนวคิดที่ดีมากๆ ด้วย
เป็นอนิเมะที่เด็กๆ ควรดู
ที่พูดแบบนี้ก็เพราะว่ามันเป็นอนิเมะ Coming of Age ที่ดีมากเรื่องนึง (ถึงส่วนตัวจะคิดว่ามันแอบโหดที่เด็กอายุเท่านี้จะเผชิญกับความโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้) โดยตัวหลักของเรื่องคือเด็กสาวที่มีชื่อว่า ชิฮิโระ อายุ 10 ขวบ ซึ่งเพิ่งย้ายบ้านมาเมืองๆ หนึ่งกับครอบครัว แต่เหตุการณ์กับจับพลัดจับผลูให้เธอต้องไปอยู่ในสถานที่อีกมิติหนึ่งเพื่อช่วยเหลือพ่อและแม่ที่กลายเป็นหมู ชิฮิโระต้องทำงานในโรงอาบน้ำที่ลูกค้าคือภูตผี แถมยังมีเจ้านายสุดโหดเป็นแม่มดที่วางแผนไม่ให้เธอออกจากมิตินี้อีกด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือเราได้เห็นการเติบโตของชิฮิโระ จากเด็กขี้กลัว ขี้แย และไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงคนหนึ่ง ได้กลายเป็นคนที่กล้าหาญเมื่อเจออุปสรรคหรือก้าวผ่านความกลัวไปได้ คิดภาพดูว่าถ้าเราในวัย 10 ขวบ ต้องมาเจอกับสิ่งที่ชิฮิโระเจอ ทั้งแม่มด ทั้งผี ทั้งปีศาจ เผลอๆ อาจจะสติแตกไม่รู้หน้าไม่รู้หลัง ร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ที่นั่นตลอดไป แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มอบความหวังและกำลังใจซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ดีเพื่อปลุกไฟความกล้าหาญและการมองโลกในแง่ดีให้กับเด็กทุกคน เลยมองว่าหากจะแนะนำอนิเมะสักเรื่องให้เด็กดู ก็ต้องเป็นเรื่องนี้
อันตรายที่มาในรูปแบบสีสันสดใส
เมื่อพูดถึงความกลัวที่ชิฮิโระเผชิญ ก็ทำให้คิดว่าตลอดทั้งเรื่อง เธอได้เจอความกลัวในหลากหลายรูปแบบ กลัวความมืด กลัวสิ่งมีชีวิตที่อธิบายไม่ได้ กลัวการอยู่คนเดียว หรือกลัวความสูง (ตอนวิ่งเลียบผ่านกำแพงตึกไปหาลุงคามาจิ) โดยในตอนแรกเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรเลยผลักภาระนี้ไปโทษความฝันเองโดยการที่เชื่อว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง บทบาทของการทำให้เป็นอนิเมะในเรื่องนี้คือการลดทอนความรุนแรงและโหดร้ายลง เรามองมันเป็นเรื่องของการผจญภัยเรื่องหนึ่ง แต่หากลองคิดภาพถึงด็กอายุ 10 ขวบ คนนึงที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ถูกฉกฉวยชื่อ (พอได้เป็นคนงานในโรงอาบน้ำก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็น) และทำภารกิจเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพ่อแม่ มันไม่ต่างอะไรจากหนังแฟนตาซีระทึกขวัญ (อดคิดถึง Pan’s Labyrinth ไม่ได้เลย ใครที่ดูแล้วก็น่าจะนึกออกว่าหมายถึงอะไร) แต่อยู่ในฉากหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ลงสีสันสวยงามประหนึ่งลูกกวาดเท่านั้นเอง
มิตรภาพที่มีค่ามากกว่าทองคำ
ตั้งแต่แรกเริ่มจนจบ เราเห็นได้ว่าชิฮิโระได้ความช่วยเหลือจากใครหลายๆ คน ทั้งฮาคุ (ตัวละครหลักชายของเรื่อง) ลุงคามาจิที่เป็นทาสทำงานในห้องต้มน้ำสมุนไพร หรือลินที่เป็นพี่เลี้ยงในโรงอาบน้ำ ตอนดูก็รู้สึกอิจฉาที่เธอได้รับมิตรภาพที่ดีมากๆ แม้เธอเพิ่งเจอคนเหล่านี้ในเวลาไม่นาน แต่ทุกคนก็พยายามช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งให้มีชีวิตรอดไปได้ นอกจากนี้ความล้ำค่าของมิตรภาพยังสะท้อนให้เห็นถึงตัวละคร โน เฟซ ที่เราน่าจะคุ้นกันดี เขาชอบชิฮิโระเพราะเธอเป็นคนเดียวที่สนใจ และยังแสดงความใจดีที่อนุญาตให้เข้ามาในโรงอาบน้ำในวันฝนตก แต่ด้วยความที่อาจไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เป็นเพื่อน เลยมอบของต่างๆ เป็นสินบน อย่าง ทอง หรือ ป้ายน้ำสมุนไพรซึ่งจำเป็นมากสำหรับงานของเธอ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สามารถซื้อมิตรภาพได้ ทำให้เห็นว่าเมื่อเทียบความล้ำค่าของมิตรภาพกับทองคำ สองสิ่งนี้ให้แทนกันไม่ได้ หรือเทียบกันไม่ได้เลย
พอดูจบเราก็ร้องไห้เหมียนหมา ;___; เอาเป็นว่าใครยังไม่ได้ดูมาก่อนก็แนะนำให้ไปดูนะ ดีมากจริงๆ
