Spring in Tohoku : ใบไม้ผลิที่โทโฮคุ

ชมซากุระที่ยามากะตะและฟุกุชิมะ กินคิตะคะตะราเมนหนึ่งในสามของเมืองราเมน

ยามากาตะ (YAMAGATA)

สวนสาธารณะคะโจ ถ่ายรูปรถไฟกับดอกซากุระได้ง่ายๆ (Kajo Park)

ฉันบอกเพื่อนสาวมาตลอดว่าอยากถ่ายรูปที่มีดอกซากุระกับขบวนรถไฟ และสวนคะโจก็ทำแบบนี้ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเจอาร์หรือชินคันเซนก็ได้หมดเลย นอกจากกิจกรรมถ่ายรูปแล้วก็ควรจะไปพบท่านโมยางิ โยชิอากิ อตีตเจ้าผู้ครองแคว้นยามากะตะที่เป็นอนุสาวรีย์ในท่าขี่ม้าห้าวหาญในสวนกว้างใหญ่แห่งนี้

บรรยากาศของดอกซากุระกว่า 1,500 ต้นกับปราสาทยามากาตะซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ของปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ต้นซากุระที่บานสะพรั่งกับเพื่อนสาวของฉันที่คงจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมพิธีชงชาหรือชิมชมช้อปร้านค้าที่มีอยู่ ภาพสะพานข้ามคูน้ำที่มองเห็นคนตัวเล็ก ๆ กำลังเดินข้ามไปมาแล้วมีฉากด้านหน้าเป็นซากุระบานทั่วบริเวณไม่เว้นแม้แต่ในคูน้ำที่เหมือนปูพรมด้วยสีชมพูดูนุ่มนวลหวานจริงจัง ที่นี่ยังมีไลท์อัพตอนกลางคืน จึงทำให้เห็นภาพซากุระที่เอนห้อยย้อยลงไปในคูแทบชิดผิวน้ำสวยน่ามองมากยิ่งขึ้นจากการสะท้อนภาพที่ชัดกลับมา ฉันคงวิ่งถ่ายรูปเป็นพัลวันเลยทีเดียว

การเดินทาง : สถานี Yamagata แล้วเดินต่อ 10 นาที
เวลาเปิด – ปิด : 05.00 – 22.00 น.

.รูปประกอบ : https://yamagatakanko.com/photos/detail_137.html

สวนเท็นโดะ (Tendo Cherry Blossom Festival and Human Japanese) ดูหมากรุกมนุษย์ครั้งแรกที่นี่กัน

เคยเล่นหมากรุก ไม่เคยเป็นหมากรุก มาเป็นตัวหมากรุกที่นี่กัน อุ้ย!.. เพื่อนสาวฉันเป็นนักกิจกรรมตัวแม่เชียวหละ พอได้ยินว่าจะได้ดูหมากรุกมนุษย์ท่ามกลางดอกซากุระหอมฟุ้งนับสองพันต้นก็ตกลงอยากไปที่นี่

สวนเท็นโดะบนยอดเขาไมซุรุเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานเทศกาลช่วงซากุระบาน ไฮไลท์ของงานคือการเล่นโชกิมนุษย์ นั่นก็คือหมากรุกญี่ปุ่นดั้งเดิมแบบใช้คนจริง ๆ มาสวมชุดเกราะโบราณน่าเกรงขามและสวยงามเดินไปบนกระดานขนาดใหญ่ตามการเคลื่อนไหวของผู้เล่นโชกิมืออาชีพ งานแสดงนี้จัดขึ้นเนื่องจากเมืองเท็นโดะเป็นแหล่งผลิตหมากรุกญี่ปุ่นใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีการจัดแข่งขันกันด้วย

ตอนกลางคืนมีไลท์อัพซากุระที่สวยงาม และมีงานออกร้านโดยร้านค้ามากมาย ฉันจะให้เพื่อนสาวได้ทำตัวหมากรุกด้วย
ตัวเองเอากลับมาเป็นที่ระลึกสักอัน

การเดินทาง : สถานี Tendo แล้วเดินไปยังสถานที่จัดงาน 20 นาทีหรือรถบัสจากสถานีเท็นโดะไปยังภูเขาไมซุรุ ราคา 100 เยน
*ควรเช็คตารางงานเทศกาลก่อนเดินทาง เพราะจัดแค่ 2 วันเท่านั้น (งานเทศกาลหมากรุกคนประจำปีที่ผ่านมาจัดขึ้นวันที่ 21 – 22 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ซากุระกำลังบานพอดี ส่วนใหญ่จัดวันเสาร์-อาทิตย์)

*รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1002763.html

ฟุกุชิมะ (FUKUSHIMA)

ฮานามิยามะ พาร์ค เดินเล่นในหุบเขาดอกไม้ กินแซนด์วิชหมูทอดผสมดอกซากุระ (Hanamiyama Park)

ฉันอยากจะมอบสวนดอกไม้สวย ๆ ให้เพื่อนสาวได้อิ่มเอมเพิ่มนอกจากการชมซากุระเพียงอย่างเดียว พอได้ยินชื่อหุบเขาดอกไม้ฉันก็นำเสนอทันที เพื่อนสาวดีใจที่ได้เห็นรูปหุบเขาฮานามิยามะที่มีดอกไม้กว่า 70 ชนิดและพร้อมใจกันออกดอกสะพรั่งทั่วบริเวณ

นอกจากดอกซากุระแล้วก็จะได้ชมดอกบ๊วย ฟอร์ซีเธีย พีช นาโนะฮานะ และแมกโนเลียที่ช่วยกันเนรมิตให้หุบเขาแห่งนี้สมชื่อหุบเขาดอกไม้หลากสีสันจริง ๆ ฉันแอบตื่นเต้นและสนุกเมื่อได้ดูยูทูปที่ไปถ่ายทำภาพจากสวนแห่งนี้มาก ๆ ภาพที่คนถ่ายทำเดินไปเรื่อย ๆ ว่าจะได้เจอดอกอะไรระหว่างทางในหุบเขาแห่งนี้ และในภาพก็มาจบที่ท้องทุ่งผืนใหญ่เต็มไปด้วยดอกนาโนะฮานะสีเหลืองจ้าเป็นพื้นแถบสีด้านล่างตัดกับสีชมพูของซากุระที่อยู่ด้วยกันเป็นแถบสีด้านบน เป็นภาพสีชมพูเหลืองบนล่างที่สดใสเข้าท่าดีเหมือนกัน

ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสก็จะเห็นเทือกเขา Azuma ที่มีหิมะปกคลุมตัดกับสีของท้องฟ้าสวยงามอยู่ไกล ๆ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นชื่อดังคุณ Shotaro Akiyama เรียกที่นี่ว่ายูโทเปียในเมืองฟุกุชิมะ เคยแต่นั่งกระเช้าชมวิวสวย ๆ หลากสีสันจากมุมสูงใช่ไหม จะขอเดินตะลุยชมสีสวย ๆ ของดอกไม้อยู่ข้างล่างสักทีคงดี

อาหารของที่นี่ก็มีเมนูที่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้น่าควักกระเป๋ายิ่งนัก อย่างเช่นแซนด์วิชหมูทอดที่ผสมซากุระและ
ขนมไทยากิที่เป็นสีชมพูเพราะทำจากแป้งผสมซากุระ อิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อกันเลย

การเดินทาง : สถานี Fukushima ทางออก East Exit ขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 6 มีรถบริการช่วงเทศกาลซากุระในเดือนเมษายน

/รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1008607.html

ดูต้นซากุระน้ำตกอายุพันปี (Miharu Takizakura)

จะจะจิงจิงเร๋อ… ถึงกับติดอ่างผิด ๆ ถูก ๆ เลย ก็พอได้ดูรูปต้นซากุระสูง 13 เมตรเข้าให้ก็มีอาการแทรกเลย สวย ๆ ๆ ๆ ใหญ่ ๆ ๆ ๆ ดอกย้อยห้อยลงมาสมกับชื่อภาษาไทยที่แปลว่า ต้นซากุระน้ำตก (Miharu Takizakura) ต้นนี้ติดอันดับ 1 ใน 3 ต้นซากุระที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและยังเป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติของญี่ปุ่นด้วย รับประกันระดับความดังด้วยกิ่งก้านสาขาที่แผ่ขยายออกไปกว้างถึง 20 เมตร เส้นรอบวงเกือบสิบเมตร ยืนต้นมากว่า 1,000 ปี (แม่เจ้า…อุทานในใจนะ) ต้นซากุระน้ำตกต้นนี้เป็นพันธุ์เบนิชิดาเระตั้งอยู่ที่เมืองมิฮารุ เป็นแลนด์มาร์คปักหมุดที่สำคัญของการมาชมซากุระที่ฟุกุชิมะเลย

ด้วยความตื่นตาจากรูปที่เห็น ดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งที่กิ่งก้านแผ่โน้มต่ำลงมาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นน้ำตกซากุระจริง ๆ สามารถเดินชมได้รอบต้นแบบใกล้ชิดได้ เทียบกับต้นซากุระแล้วคนที่ชมอยู่ในภาพตัวเล็กไปเลย ช่วงกลางคืนมีไลท์อัพด้วยนะน่าจะเหมาะกับคนที่เช่ารถขับมากกว่า

การเดินทาง : จากสถานี JR Koriyama นั่งรถไฟ JR Ban-etsu-East Line for IWAKI ไป 12 นาทีลงที่สถานี Miharu จากนั้นต่อรถบัสไปอีกประมาณ 15 นาที
ค่าเข้าชม : 300 เยน (ค่าชมต้นซากุระ)
ระยะเวลาที่เข้าชม : กลางเดือน – ปลายเดือนเมษายน

.รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1006376.html

คิตะคะตะราเมน (Kitakata Ramen) มีดีที่น้ำซุปปลา กินได้ไม่รู้เบื่อ

อินอะไรกับเรื่องราวแบบนี้กันใช่ป่าวล่ะ คุณหลานมาตามหาคุณตาที่มาทำงานในโรงไฟฟ้าถ่านหินใกล้เมืองคิตะคะตะ แต่เราก็หากันจนเจอ… เปล่าเจอกันนะ เพราะชีวิตมันไม่ใช่เรื่องง่าย คุณหลานจึงเปิดแผงขายบะหมี่สูตรบ้านเกิดริมถนนจนปัจจุบันกลายเป็นร้านราเมนต้นตำหรับของเมืองคิตะคะตะไปเลย ตอนนี้ร้านเปิดขายมานานกว่า 90 ปีแล้ว

สามเมืองราเมนดังของประเทศญี่ปุ่นคือ ซัปโปโร ฮากาตะ และคิตะคะตะที่กำลังเขียนถึงนี่แหละ เมืองคิตะคะตะที่เป็นเมืองเล็ก ๆ เทียบไม่ได้กับเมืองใหญ่อย่างซับโปโรและฮากาตะ แต่มีร้านราเมนมากกว่าหนึ่งร้อยร้านกระจายอยู่ทั่วเมือง เรียกว่าราเมนทาวน์ได้เลย เพื่อนสาวเด็กเส้นควรจะได้กินราเมนแสนพิเศษที่มีเรื่องราวดีต่อใจสักชาม ตอนที่กินคงจะรู้สึกหัวใจพองโตเพราะนั่นก็ถือว่าการควักกระเป๋าตังค์จ่ายค่าราเมนชามนี้คือการให้กำลังใจคุณหลานผู้กตัญญูที่มาตามหาคุณตานะจ๊ะ (อืม… มีเหตุผลในการกิน)

สถานที่ : ร้านในเมืองคิตะคะตะ

.รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1008891.html

นีงาตะ (NIIGATA)

สวนสาธารณะทาคาดะ (Takada Park) ชมซากุระกลางคืนที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น

เพื่อนสาวยังติดอกติดใจกับภาพซากุระตอนกลางคืนอยู่ ฉันจึงบอกว่าใกล้ ๆ กับฟุกุชิมะมีซากุระกลางคืนติด 1 ใน 3 ที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นนะ เธอถึงกับอ้อนว่าอยากไปดู

เวลากลางวันสวนทาคาดะที่มีซากุระกว่าสี่พันต้นบานสะพรั่งและแวดล้อมด้วยธรรมชาติเพลินตา มองเห็นหิมะบนภูเขาที่ยังเกาะอยู่ด้านบนได้ชัดเจน ข้างในสวนมีปราสาททาคาดะอยู่หลังทิวซากุระ ที่ชั้น 3 ของปราสาทมองเห็นสวนทาคาดะได้แบบพาโนรามาเลย

แต่พอตกกลางคืนก็มีโคมไฟกระดาษกว่าสามพันชิ้นส่องแสงนวล ๆ สบายตา ส่วนไลท์อัพที่ปราสาทก็ทำให้ได้รับตำแหน่งหนึ่งในสามอันดับปราสาทยามค่ำคืนของญี่ปุ่น ซึ่งอีกสองแห่งคือปราสาทโอซาก้าและปราสาทโคจิ ตรงอุโมงค์ซากุระที่มีไลท์อัพทำให้นึกถึงภาพอุโมงค์ไฟประดับฝีมือคนแต่นี่เป็นความสวยงามแบบธรรมชาติสร้างให้

ไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้อง ร้านแผงลอยที่สร้างบรรยากาศครึกครื้นกว่าสามร้อยร้านเหมือนกับภาพที่เคยเห็นบ่อย ๆ ทั้งขายอาหารและเครื่องดื่ม โอโคโนมิยากิ ปลาหมึกชิ้นหนาหรือเนื้อในกระทะร้อน ๆ แล้วราดซอส หน้ากากการ์ตูนหลายแบบ ตักปลาด้วยกระดาษ และคนคู่ที่มาเดินเกี่ยวแขนให้อิจฉา การหนีไปเช่าเรือพายในคูชั้นในปราสาทแล้วชมความงามของซากุระบนผิวน้ำที่สะท้อนจากของจริงอย่างสวยงามก็ทำให้หายอิจฉาลงได้อย่างมาก (ฮา)

สวนทาคาดะเป็นสถานที่ชมซากุระกลางคืนติดหนึ่งในสามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกสองที่คือสวนฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ และสวนอุเอโนะที่โตเกียว

การเดินทาง : จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี Joetsu Myoko ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถไฟ Echigo Tokimeki Railway Myoko – Haneume Line ไปลงที่สถานี Takada ใช้เวลา 6 นาที จากนั้นเดิน ใช้เวลา 15 นาที
ค่าเข้าชม : ฟรี (สำหรับอาคารบางแห่งภายในสวนรวมถึงพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองโจเอ็ทสึ (Joetsu City History Museum) จะต้องชำระค่าเข้าชม)
เวลาเปิดทำการ : ช่วงต้นเดือนเมษายน – กลางเดือนเมษายนของทุกปี
ช่วงเวลาไลท์อัพ : ภายในสวนตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน จนถึง 21.00 น. (ช่วงคนแน่นจะเปิดถึง 22.00 น.)

/รูปประกอบ : https://niigata-kankou.or.jp/photo/634

**สถานที่ท่องเที่ยว เทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ อาจถูกยกเลิก เลื่อนวัน-เวลา หรือปิดชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบของการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ดังนั้นโปรดตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทางท่องเที่ยว**

เรื่องโดย Data & Communique Express Co., Ltd.