Special interview with “SWEAT16”

Special interview with “SWEAT16”

ดนตรีที่ดุดันและภาพลักษณ์ใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม

หลังจากห่างหายไป 1 ปี เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ไอดอลกรุ๊ป SWEAT16 กลับมาอีกครั้งด้วยดนตรีที่ดุดันและภาพลักษณ์ใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม พร้อมปล่อยเพลง “DAMAGE NO.10” ซิงเกิ้ลลำดับที่ 6 ที่สะท้อนให้เห็นเสน่ห์ของวงและสมาชิกแต่ละคน พร้อมแนวดนตรีที่โตขึ้น

เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราจึงหาโอกาสไปเจอกับพวกเธอที่กิจกรรม HI-FIVE & CHEKI พร้อมสัมภาษณ์สมาชิกทั้ง 8 คนซึ่งนำทีมโดย แอ๊นท์ – วรินดา เนินเพิ่มพิสุทธิ์ (กัปตันวง), ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล, ซอนญา – ซอนญา ชิษณุชา ดอนเนลลี่, พิม – พิม ขจรเวคิน, พาด้า – ปภาดา ตันติประสงค์ชัย, เพชร – พรรษา บุณยะกลัมพ, เฟรม – สุธาสินี เอมทอง และพราวด์ – ปัทมาริษา ปัดภัย

ช่วงเวลา 3 ปีกว่า ๆ ตั้งแต่ที่เริ่มเดบิวท์จนถึงปัจจุบัน พวกเธอเติบโตขึ้นมากขนาดไหน มาพูดคุยและทำความรู้จักกับสาว ๆ SWEAT16 ให้มากขึ้นกันเถอะ!

Special interview with “SWEAT16”

ปัจจุบัน มีวงไอดอลจำนวนมากในเมืองไทย คิดว่าอะไรคือจุดเด่นหรือข้อแตกต่างของ SWEAT16 ที่แตกต่างไปจากวงอื่น ๆ

แอ๊นท์ : จริง ๆ แล้วแต่ละวงนั้นมีทั้งส่วนที่คล้ายคลึงและแตกต่างกันอยู่ สำหรับ SWEAT16 จุดเด่นของวงคือเรื่อง Performance ค่ะ เราจะเน้นการแสดงที่แข็งแรง เพลงจังหวะเร็ว และมีความสนุกสนาน โดยเฉพาะเรื่องความแข็งแรง จะเน้นเรื่องนี้มากเพราะอยากให้แฟนคลับได้รับพลังจากพวกเราไปด้วย อยากให้ทุกคนได้สนุกสนานไปพร้อม ๆ กันกับพวกเรา ในขณะเดียวกันพวกเราก็จะมอบความแข็งแรง สดใส และน่ารักให้กับพวกเขาด้วย แต่หลัก ๆ ก็คือเรื่อง Performance ที่แข็งแรงค่ะ

แล้วลักษณะ Performance ที่แข็งแรงนั้นเป็นความตั้งใจของสมาชิกแต่ละคนที่อยากจะถ่ายทอดออกมาให้แฟน ๆ ได้เห็นใช่รึเปล่า

แอ๊นท์ : ใช่ค่ะ พวกเราปรึกษาร่วมกันกับทางผู้ใหญ่และทีมงาน เราเองในฐานะศิลปินที่อยู่บนเวทีก็จะรู้ว่าแฟนคลับเราชอบเพลงแบบไหนหรือสนุกกับเพลงแบบไหน เราก็จะอยากให้เพลงออกมาโดนใจกลุ่มแฟนคลับด้วย เพราะพวกเขาก็คอยสนับสนุนพวกเรามาโดยตลอด ทางผู้ใหญ่ก็จะคอยให้คำปรึกษาต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นพวกเราในมุมอื่นที่แตกต่างออกไป อย่างซิงเกิ้ลล่าสุดคือเพลง “DAMAGE NO.10” ที่ Performance เน้นเต้นหนักมาก เยอะมาก แต่อาจจะไม่ใช่เพลงแนวญี่ปุ่นที่แฟนคลับเคยได้ยินมาก่อน ซึ่งฉีกและแตกต่างไปจากเพลงก่อนหน้านี้ อย่างเพลงชาไข่มุก ปิ้งย่าง ที่จะดูน่ารักด้วย แข็งแรงด้วย แต่ซิงเกิ้ลใหม่นี้จะแหวกแนวไปทางเท่ ๆ เลย ไม่เหมือนกับทุกๆ เพลงที่ผ่านมา ทำให้แฟนคลับได้เห็นพวกเราในมุมอื่น ๆ


ความพยายามและรอยยิ้มที่สดใสที่ยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่เดบิวท์


SWEAT16 เดบิวท์ในปี ค.ศ.2017 ตลอด 3 ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา คิดว่าวงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง อะไรที่ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด และอะไรที่ยังคงเหมือนเดิมกับวันแรกที่เดบิวท์

ม่านมุก : เรื่องที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่มากขึ้นของสมาชิกทุกคนเลยค่ะ อย่างตอนแรกที่เดบิวท์มาเราก็จะมีความตื่นเต้น จะทำแบบนั้นดีไหม แบบนี้ดีไหม แต่พอผ่านประสบการณ์นั้นมาเรื่อย ๆ ก็จะรู้ว่า ทำแบบนี้ดีนะ ทำแบบนี้มั่นใจและเราอยากทำนะ รวมถึงแฟนคลับของพวกเราก็ยังคงให้การตอบรับดีเสมอ ทั้งแฟนคลับที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แรก และแฟนคลับใหม่ ๆ ที่เข้ามาสนับสนุน มาให้กำลังใจกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ รู้สึกดีใจและขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ยังคงอยู่กับเรามาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

ส่วนเรื่องที่ยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่เราเดบิวท์ก็คงจะเป็นความพยายามและรอยยิ้มที่สดใสของพวกเราค่ะ (หัวเราะ) อยากมอบพลังงานดี ๆ และส่งมอบความสุขให้ทุกคนเหมือนเช่นเคยค่ะ

ยังรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่ขึ้นเวทีแสดงเพลงใหม่ ๆ ไหม

ม่านมุก : ตื่นเต้นนะคะ โดยเฉพาะ Performance ครั้งแรก ก็จะรู้สึกว่าต้องทำให้ปังนะ! ต้องทำให้ดีที่สุดนะ! แต่เพราะเราฝึกฝนกันมาเยอะ มีโอกาสได้ขึ้นเวทีแสดงมากขึ้น เราก็จะมีประสบการณ์ เริ่มรู้แล้วว่าถ้าเกิดกล้องมาเราจะต้องทำหน้ายังไง ต้องทำตัวแบบไหน ก็จะมีสติมากขึ้นค่ะ

Special interview with “SWEAT16” แอ๊นท์

แอ๊นท์ – วรินดา เนินเพิ่มพิสุทธิ์

แล้วเคยเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้รึเปล่า

ม่านมุก : เคยค่ะ อย่างของน้องเฟรมตอนที่เปิดตัวซิงเกิ้ล “ปิ้งย่าง” ที่เวทีงาน Cat Expo ตอนนั้นพวกเราซ้อมมาดีมาก

เฟรม : ตอนนั้นรองเท้าค่อนข้างลื่นค่ะ เวทีก็ลื่นมาก หนูก็พรืดไปเลยค่ะ ข้างหน้าเวที ตอนนั้นทุกคนกำลังเรียงหน้ากระดานกันอยู่ แล้วเป็นหนูคนเดียวที่ลื่นลงไป ตอนนั้นรู้สึกช็อกมาก ลงจากเวทีก็ร้องไห้ เพราะมันเป็นเวทีใหญ่ ทุกคนตั้งใจมาก ๆ แล้วมันจะจบเพลงแล้วค่ะ ก็อยากให้มันเพอร์เฟ็กมากที่สุด สุดท้ายแล้วพอมันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจากตัวเรา โดยที่มันเป็นอุบัติเหตุที่เราไม่ได้ตั้งใจเลยยิ่งรู้สึกแย่ อยากจะทำให้มันดีอยู่เสมอน่ะค่ะ

ตอนนั้น แฟนคลับตกใจมากไหม

เฟรม : น่าจะตกใจนะคะ หนูได้ยินเสียง “เฮ้ยยยย!” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเฮ้ยเฟรมรึเปล่า แต่คิดว่าน่าจะเฮ้ยเฟรมนี่แหละ แล้วทุกคนในวงก็พยายามคว้ามือเฟรมขึ้นไป คนที่อยู่ข้าง ๆ ก็คว้ากันใหญ่เลย

Special interview with “SWEAT16” ม่านมุก

ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล

แล้วเวลาสื่อสารกับแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่น สื่อสารอย่างไรหรือสื่อสารผ่านช่องทางไหนกันบ้าง และคิดว่าแฟนญี่ปุ่นแตกต่างจากแฟนไทยไหม

พิม : เวลาที่สื่อสารกับแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ก็จะพยายามพูดภาษาญี่ปุ่นค่ะ อย่างเวลาที่ SWEAT16 ไปออกรายการของประเทศญี่ปุ่น ก็จะสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นค่ะ ส่วนช่องทางส่วนใหญ่จะเป็นทางทวิตเตอร์เพราะคนญี่ปุ่นใช้ทวิตเตอร์ค่อนข้างเยอะ เมื่อก่อนเวลาพิมอัปอะไรไปก็จะอัปภาษาไทยล้วน เดี๋ยวนี้ก็จะใช้ภาษาญี่ปุ่นบ้าง รวมถึงเพื่อน ๆ ในวงก็จะพยายามใช้ภาษาญี่ปุ่นกันด้วย ถึงจะนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็จะพยายามให้มีภาษาญี่ปุ่นด้วยเสมอค่ะ ตัวพิมเองเคยไลฟ์ในแอปพลิเคชันหนึ่งซึ่งคนที่ดูส่วนใหญ่ก็เป็นชาวญี่ปุ่น ก็จะใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดคุยกัน บางทีเราพูดภาษาญี่ปุ่นไป เขาก็จะคอมเมนต์กลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งพวกเราไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นคล่อง 100% แต่แฟน ๆ ก็พยายามเข้าใจเรา เราก็พยายามเข้าใจเขา ก็เหมือนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนก่อนช่วงโควิดเราก็มีอีเวนต์แล้วก็มีงานที่ญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อยค่ะ ตอนนั้นมีงานถ่ายรูป แฟนคลับชาวญี่ปุ่นก็มาถ่ายรูปกับเรา บางคนก็ตามมาเวลามีอีเวนต์ที่เมืองไทยด้วยค่ะ


เพราะจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือมาเพื่อสนับสนุนเรา


แล้วแฟนคลับคนไทยกับคนญี่ปุ่นแตกต่างกันไหม

เฟรม : ความแตกต่างเดียวที่เฟรมรู้สึกได้คือเรื่องภาษาค่ะ จริง ๆ เราเป็นไอดอล เราจะรู้สึกว่า แฟนคลับไม่ว่าจะเป็นใคร เชื้อชาติไหน ทุกคนก็คือแฟนคลับเราค่ะ เพราะจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือมาเพื่อสนับสนุนเรา เลยไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาแตกต่างกัน แต่ก็จะมีเรื่องของภาษา เรื่องการสื่อสารอย่างที่พิมบอกไปค่ะ ช่องทางการสื่อสารอาจจะไม่เหมือนกัน ช่องทางโซเชียลที่แฟนคลับที่นั่นกับแฟนคลับไทยใช้ก็ไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วความรู้สึกที่เราได้รับจากพวกเขาคือเหมือนกัน ความรู้สึกที่เราส่งไปก็เหมือนกัน

แล้วเวลาที่พวกเราไปประเทศญี่ปุ่น แฟนคลับไทยที่ตามไปด้วยเขาก็จะไปแชร์กับคนญี่ปุ่น ไปช่วยหา ไปช่วยแนะนำว่าพวกเราคือใคร มาจากไหน เราเห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักมาก ๆ ดีจังเลย รู้สึกขอบคุณพวกเขามาก ๆ ค่ะ ส่วนแฟนคลับญี่ปุ่นก็จะเฟรนด์ลี่ มาถ่ายเชกิกับพวกเรา มาลองทำกิจกรรมร่วมกับพวกเรา เป็นอะไรที่รู้สึกน่ารัก รู้สึกดีมาก ทุกครั้งที่ได้ไปญี่ปุ่นเลยรู้สึกว่าไม่ต้องเกร็งเลย เหมือนอยู่ที่ไทยเลยค่ะ

แล้วจริง ๆ คนญี่ปุ่นเขินน้อยกว่าคนไทยอีกนะคะ คนไทยจะเขินมากกว่า ด้วยความที่ประเทศเขาเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไอดอล มีวัฒนธรรมไอดอลมานานแล้ว เป็นประเทศที่มีกลุ่มไอดอลเยอะมาก ๆ เพราะฉะนั้นเขาก็จะคุ้นเคยกับการทำกิจกรรมอย่างงานเชกิ หรืองานไฮทัช ส่วนวิธีเชียร์ก็ค่อนข้างเหมือนกันค่ะ มีพลังเหมือนกันทั้งคู่เลย


จุดดีของสมาชิกแต่ละคน


พูดถึงบุคลิกของแต่ละคนหน่อยดีกว่า คิดว่าเอกลักษณ์หรือจุดดีของสมาชิกคนข้าง ๆ คืออะไร

ซอนญา : จุดเด่นของน้องพราวด์นะคะ แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นความสดใสน่ารักของสมาชิกที่เด็กที่สุดในวง เป็นน้องเล็กที่สูงที่สุดในวง (หัวเราะ) น้องเป็นคนที่มีความพยายามมาก ๆ จากตอนแรกที่ไม่ได้เป็นตัวจริง จนตอนนี้ได้เป็นเซนเตอร์ของวงแล้วค่ะ ความพยายามก็เลยเป็นจุดเด่นของพราวด์ค่ะ

พราวด์ : จุดเด่นของพี่พิมคือเป็นคนตลกค่ะ เป็นคนที่สวยด้วย ตลกด้วย เฟรนด์ลี่มาก ๆ คุยด้วยง่าย และเพราะพี่พิมเป็นคนหน้ายิ้มอยู่เสมอ เลยทำให้เป็นคนที่ดูเฟรนด์ลี่ ถึงจะไม่รู้จักกันก็ไม่รู้สึกเกร็ง ไม่รู้สึกอึดอัดที่จะคุยด้วยค่ะ

พิม : แอ๊นท์เป็นคนเซ็กซี่ค่ะ ถ้ามองจากหน้าตาเฉย ๆ อาจจะดูดุ ๆ น่ากลัวหน่อย ๆ แต่ถ้าได้คุยด้วยจริง ๆ ก็จะรู้ว่าแอ๊นท์เป็นคนเฟรนด์ลี่ และในฐานะกัปตันก็เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง มีดุบ้างแต่ก็ไม่ได้ดุมาก คอยดูแลให้ทุกคนอยู่ในกฎระเบียบ คอยช่วยเหลือสมาชิกอยู่เสมอ เป็นเหมือนแม่เลยค่ะ แล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีด้วยค่ะ

Special interview with “SWEAT16” ซอนญา

ซอนญา – ซอนญา ชิษณุชา ดอนเนลลี่

แอ๊นท์ : พี่เพชรเป็นคนเก่งมากๆ ค่ะ สามารถทำหลายๆ เรื่องได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากเป็นไอดอลแล้วก็ยังทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย ตอนนั้นก็เรียนปริญญาโทไปด้วย พี่เพชรทำอะไรหลาย ๆ อย่างแล้วก็ทำออกมาได้ดีทุกด้านเลย เป็นคนที่มีความรับผิดชอบแล้วก็มีวินัยสูงมาก ๆ อีกอย่างก็คือไม่เคยเห็นพี่เพชรอ้วนเลย หุ่นดีตลอด แล้วเวลาพี่เพชรทำอะไรก็จะทำให้นึกถึงนางเอกหนังจีนตลอด มีความสวย เป็นนางเอก ดูเรียบร้อย แอ๊นท์กับพี่เพชรรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ เต้นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอได้มาเจอกันใน SWEAT16 อีกครั้ง ตอนแรกก็ตกใจค่ะ แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยเพราะรู้จักกันมาก่อน พี่เพชรเป็นพี่สาวที่ดีสำหรับทุกคนมาก ๆ คอยไปรับส่งคนในวงบ้าง แล้วก็คอยให้คำปรึกษา มีวุฒิภาวะสูงค่ะ

เพชร : น้องเฟรมเป็นคนเก่ง ฉลาด เป็นเด็กที่มีไหวพริบดีมาก ๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ตอนแรก ๆ ถ้ายังไม่ค่อยคุ้นเคยก็ดูเป็นคนเฉย ๆ ดูเข้าถึงยากนิดหนึ่ง แต่พอได้รู้จักจริง ๆ แล้วก็รู้ว่าน้องเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง มีหลักการและเหตุผลที่ดีมาก ๆ ด้วย เพชรชื่นชมน้องมากๆ ตอนนี้ก็ทั้งเรียน ทั้งทำงานไปด้วย เป็นคนที่มีความพยายามมาก ๆ อีกคนหนึ่งค่ะ

Special interview with “SWEAT16” พิม

พิม – พิม ขจรเวคิน

เฟรม : ขอบคุณพี่เพชรมาก ๆ นะคะ สำหรับพี่มุก จริง ๆ แล้วเฟรมกับพี่มุกก็ค่อนข้างสนิทกันในระดับหนึ่งเลยค่ะ พี่มุกเป็นคนที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องงาน คุยได้ด้วยทุกเรื่อง เป็นเหมือนคุณแม่ อย่างตอนที่พี่มุกขับรถไปส่งเฟรมที่บ้าน แล้วเฟรมเล่าว่าอยากซื้อเวสป้า พี่มุกก็พูดว่า ดูนะ! เนี่ย! ถ้าฝนตก ถ้าฟ้าร้อง เฟรมก็จะอย่างนั้นอย่างนี้ ฟังจบเฟรมก็คือไม่กล้าซื้อเลย อีกอย่างก็คือพี่มุกเป็นคนเฟรนด์ลี่ จิตใจดี ทำทุกอย่างกับทุกคนด้วยความหวังดี เป็นความรู้สึกที่ว่าเขาเป็นคนจริงใจ อยู่ด้วยได้เรื่อย ๆ อยู่ด้วยได้โดยไม่มีความกังวล ไม่อึดอัด บรรยากาศรอบตัวฟรุ้งฟริ้ง เวลายิ้มก็น่ารัก รอบตัวสว่างไสว แถมยังจุดประกายความรู้สึกหรือแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้เยอะค่ะ แต่ก็มีเวลาที่พี่มุกโมโหเหมือนกันนะคะ เป็นคนที่โมโหแล้วดูปุ๊กปิ๊กเหมือนแมวโกรธอ่ะ ไม่ได้ดูน่ากลัวขนาดนั้น แล้วก็พี่มุกเป็นคนที่มีไฟ มีแพชชั่นตลอดเวลา ปลุกไฟในตัวเองและเพื่อน ๆ ได้ดี อยู่ด้วยแล้วมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง! (ยาวมากเลย / หัวเราะ)

Special interview with “SWEAT16” พาด้า

พาด้า – ปภาดา ตันติประสงค์ชัย

ม่านมุก : พาด้าเนี่ย อันดับแรกเลยคือเป็นคนสวย จิตใจดี หุ่นดีมาก น้องแอ๊นท์บอกว่าพี่เพชรไม่เคยอ้วนใช่ไหมคะ แต่พาด้านี่มีแต่ผอมลงเรื่อย ๆ เป็นคนที่หุ่นดีมาก แล้วน้องก็เป็นคนจิตใจดี ใจบุญ ชอบทำสมาธิ มีความสามารถหลากหลายมาก ๆ เป็นคนที่มีความสามารถซ่อนอยู่ในตัวเองเยอะมาก ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยรู้ อย่างเรื่องที่น้องเป็น DJ ได้ สแครชแผ่นได้ น้องมีความสามารถที่เยอะมาก ตอนนี้ก็เล่นสเก็ตบอร์ดด้วยนะคะ แล้วก็ร้องเพลงเพราะมาก พาด้าเป็นคนที่มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ร้องเพลงเก่งมาก ๆ มุกเองก็อยากร้องเก่งให้ได้เหมือนพาด้าค่ะ

พาด้า : สำหรับน้องซอนญา น้องเป็นคนที่หล่อที่สุดในวงแล้วค่ะ ไม่มีใครหล่อเท่าน้องแล้ว! น้องจะมีความเท่ ความแมนอยู่ในตัวสูง เป็นคนที่มีบุคลิกนิ่ง ๆ หน่อย และมีหลักการในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งการออกกำลังกาย การกิน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสุขภาพค่ะ ปรึกษาน้องได้ทุกเรื่องเลย น้องเป็นเทรนเนอร์ให้กับทุกคนในวง คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องหุ่น เรื่องร่างกายหรือการออกกำลังกาย ก็คือปรึกษาน้องได้ทุกเรื่องเลยค่ะ

Special interview with “SWEAT16” เพชร

เพชร – พรรษา บุณยะกลัมพ

แล้วส่วนตัว แต่ละคนมีละครหรือซีรีส์ญี่ปุ่นที่ชอบดูกันมั้ย ชอบเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือช่วงนี้กำลังดูเรื่องอะไรกันอยู่บ้าง

ซอนญา : ชอบดูแนวเครียด ๆ นองเลือดหน่อย ๆ ค่ะ ถ้าเป็นหนังญี่ปุ่นจะเป็นเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างเก่ามาก เป็น adaptation ของอะนิเมเรื่องหนึ่งชื่อ “Kamisama no Iutoori” ค่ะ ใครที่ชอบหนังแนวนี้ก็แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ ดีมาก ๆ ค่ะ

พาด้า : ชอบซีรีส์เรื่อง “Ouran High School Host Club” ชอบเพราะว่ามีมาริโกะ (Mariko Shinoda) อดีตเมมเบอร์ของ AKB48 ร่วมแสดงด้วย ก็เลยดูตั้งแต่ตอนนั้น ชอบมากๆ แล้วก็ดัดแปลงมาจากอะนิเมที่ชอบมาก ๆ ด้วย ก็เลยอยากจะแนะนำเรื่องนี้ค่ะ ถึงมันจะเก่าแล้วแต่ก็ดูได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ

พิม : เป็นคนที่ชอบดูซีรีส์ญี่ปุ่นมาก อย่างซีซั่นที่เพิ่งจบไปก็มี Shitteru Waifu แล้วก็ Red Eyes แล้วก็ Oh! My Boss ส่วนซีซั่นนี้ที่ว่าจะดูอยู่ก็ พิมจำชื่อเรื่องไม่ได้ เรื่อง Deep อะไรสักอย่างนึงนี่แหละ เป็นนักอะไรใต้น้ำสักอย่าง Deep Koi อะไรสักอย่าง แล้วก็มีอีกเรื่องนึง Yokohama Ryuusei เป็นนักแสดงนำค่ะ กำลังจะออนอังคารนี้มั้งคะ เรื่องนั้นก็น่าดูมากเลยค่ะ แนะนำค่ะ

Special interview with “SWEAT16” เฟรม

เฟรม – สุธาสินี เอมทอง

แอ๊นท์ : เรื่อง Followers ใน Netflix ค่ะ ภาพสวย เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก แต่ให้แง่คิดในเรื่องการใช้โซเชียล ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งจะเริ่ม ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองก็คือ Attack on Titan ค่ะ แอ๊นท์เพิ่งเริ่มดูซีซั่นแรก ดูตามเพื่อน ๆ ในวงเพราะคนในวงคุยกันเรื่องนี้เยอะ เลยอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ก็เลยเริ่มดูบ้างค่ะ

ม่านมุก : ขอแนะนำเรื่องนี้เลยเพราะว่าชอบมาก Cherry Magic! ค่ะ ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นมี Boy’s Love เยอะใช่ไหมคะ ซึ่งประเทศไทยเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นเยอะ และประเทศไทยเองก็นำเสนอซีรีส์วายไปที่ญี่ปุ่นเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ม่านมุกคิดว่าถือเป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นดูละครแนว Boy’s Love เพราะเป็นเรื่องที่น่ารักมาก ๆ ละมุนมาก ถ้าใครอยากเริ่มต้นดูแนวนี้ เริ่มจาก Cherry Magic! เนี่ยบอกเลยว่าสุดยอดมาก แล้วก็พระเอกหล่อมากเลยค่ะ (หัวเราะ) ชอบคุณเคย์ตะค่ะ


เทคนิคและวิธีฝึกฝนในการพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่น


เรื่องภาษาญี่ปุ่น มีเทคนิคหรือวิธีฝึกฝนและพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นอย่างไรกันบ้าง

พราวด์ : วิธีที่พราวด์ใช้มาตลอดและเป็นสิ่งที่ทำให้พัฒนามาถึงทุกวันนี้ก็คือ เราต้องมีแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาค่ะ อย่างพราวด์ที่ชอบดูอะนิเมมากมาตั้งแต่เด็กก็จะใช้วิธีดูพากย์ญี่ปุ่น พร้อมซับไตเติ้ลไทย เราจะได้ฟังไปด้วย รู้คำแปลไปด้วย หรือบางทีเราชอบนักแสดงคนไหนมาก ๆ เราก็จะไปติดตามเขาแล้วก็ดูในโซเชียลมีเดียว่าเขาเขียนอะไร แล้วก็ลองแปลดูว่าเขาพูดถึงอะไรก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ จริง ๆ พวกเราเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเป็นเทรนนีอยู่แล้ว ทำให้พวกเรามีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นพอสมควรค่ะ

เฟรม : อยากจะแนะนำเรื่องการสื่อสารค่ะ เวลาเราเรียนภาษาต่างประเทศ เราจะค่อนข้างฟังได้ดีกว่าพูด ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนาทักษะการพูดได้ดีมาก ๆ เลยก็คือ การพูดตามค่ะ สมมุติอย่างน้องพราวด์มีแรงบันดาลใจเป็นการดูอะนิเมหรือการดูซีรีส์ใช่ไหม ก็อาจจะพูดตามประโยคต่าง ๆ ในเรื่องที่ดู เป็นการ shadowing คำไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะดูอะไรก็แล้วแต่ มันจะทำให้กล้ามเนื้อเราขยับแล้วเกิดการจดจำ สมองเราจะทำงาน มันจะทำให้เราพูดได้ดีขึ้น เวลาไปคุยกับใครเราจะได้ถนัดทักษะการพูดมากขึ้นด้วย และรู้สึกคุ้นชินมากขึ้น การ shadowing ดีมากเลยค่ะ!

ซอนญา : ของซอนญาเองก็ใช้วิธีหาแรงบันดาลใจเหมือนน้องพราวด์ค่ะ นอกจากอะนิเมะหรือพวกซีรีส์ที่ดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ อีกอย่างก็คือการเล่นเกมค่ะ ชอบเล่นเกมแนว FPS ก็จะเป็นเกมยิงปืนซึ่งมันมีเกมหนึ่งที่ชอบเล่นมาก ๆ ไม่ค่อยดังในไทย แต่ดังในประเทศญี่ปุ่นมาก ๆ ชื่อว่าเกม “Apex Legends” ค่ะ พอเล่นเกมนี้ก็เลยได้ฝึกพูดภาษาญี่ปุ่นกับเพื่อน ๆ ที่อยู่ญี่ปุ่นจากเกมนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ ซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้ศัพท์ต่าง ๆ ในเกม ก็จะได้เรื่องการพูดคุย สื่อสารกับคนญี่ปุ่นด้วยค่ะ ทำให้พัฒนาขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

Special interview with “SWEAT16” พราวด์

พราวด์ – ปัทมาริษา ปัดภัย

เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานอะไรปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันบ้างรึเปล่า

พิม : ตอนนี้จะมีการปรับให้เป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น มีอีเวนต์ออนไลน์ แล้วก็คอนเทนต์ต่าง ๆ ใน YouTube ด้วย สามารถติดตามพวกเราได้ทาง YouTube Channel ออฟฟิเชียลของ SWEAT16 นอกจากนั้น แต่ละคนก็จะเริ่มมีงานสายแสดงซีรีส์ต่าง ๆ แล้วก็จะมีโปรเจกต์พิเศษ หรือกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคนด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้สามารถติดตามได้ในเพจ SWEAT16เลยค่ะ!

สุดท้ายแล้ว ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นกันหน่อย

แอ๊นท์ : พวกเรา SWEAT16 ก็ทำหน้าที่ไอดอลมา 3 ปีกว่าแล้ว ก็อยากให้ทุกคนได้รู้จักพวกเรามากขึ้น อยากให้ทุกคนลองเข้าไปดูซิงเกิ้ลแต่ละซิลเกิ้ลของพวกเรา ตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงล่าสุดว่าพวกเรามีพัฒนาการมากขนาดไหน พวกเราเองก็อยากจะทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไป อย่างไรก็ฝากสนับสนุนพวกเราด้วยนะคะ พวกเราจะตั้งใจทำงาน มอบความสุข ความสดใส และพลังบวกให้กับทุกคนต่อไปค่ะ

พาด้า : ฝากแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นและแฟน ๆ ชาวไทยติดตามวง SWEAT16 ด้วยนะคะ เพราะพวกเราเต็มที่มาก ๆ กับทุก ๆ ผลงานที่ปล่อยออกมา อยากให้แฟน ๆ หรือใครที่ยังไม่รู้จักพวกเราก็อยากให้ลองติดตามพวกเราดูค่ะ อยากให้เห็นว่าพวกเราพยายามมาก ๆ อยากให้ลองติดตามจริง ๆ ค่ะ

ซอนญา : ปกติพวกเราจะเดินทางไปญี่ปุ่นทุกปีอยู่แล้ว แต่เพราะสถานการณ์โควิด-19 เลยทำให้พวกเราไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ หวังว่าหลังจากที่โควิดหายไป พวกเราจะได้ไปเยี่ยมเยียนแฟน ๆ ที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ถึงตอนนั้นที่พวกเราได้ไปก็อย่าลืมมาเชียร์พวกเราด้วยนะคะ ฝากติดตามพวกเรา SWEAT16 ด้วยค่ะ

Special interview with “SWEAT16”

ติดตามและเป็นกำลังใจให้ SWEAT16 ได้ทาง

Website / YouTube / Facebook / Twitter / Instagram
และช่องทางโซเชียลมีเดียของสมาชิกแต่ละคน

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
ช่างภาพ: Ma-een

views