หยุดรักไว้ที่วันนั้น

ชวนตามรอย THE END OF THE PALE HOUR กับ 3 ฉากพื้นที่สาธารณะสุดเก๋

จากนิยายขายดีสุดโด่งดังของปี ค.ศ.2020 “明け方の若者たち” (Akegata no Wakamonotachi) ที่เขียนโดย “มาซาฮิโกะ คัตสึเสะ” สู่ภาพยนตร์รักที่ครองใจวัยรุ่นญี่ปุ่น “THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น” กำกับโดย “ฮานะ มัตสึโมโตะ” ผู้กำกับหญิงดาวรุ่งจากซีรีส์ Love and Fortune และเขียนบทโดย “คาซึฮิสะ โคเดระ”

เรื่องราวความรักครั้งแรกของชายหนุ่มซึ่งแทนตัวเองว่า “ผม” รับบทโดย “ทาคุมิ คิตามุระ” (I WANT TO EAT YOUR PANCREAS ,OUR 30 MINUTE SESSIONS) เขาได้พบกับ “เธอ” รับบทโดย “ยูอินะ คุโรชิมะ ” (Sagrada Reset) พวกเขาตกลงที่จะเดตกันทุกสุดสัปดาห์ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงรุ่งเช้า จนเวลาผ่านไป 2 ปี หญิงสาวคนนั้นก็ได้หายตัวไป โดยไม่มีแม้แต่คำร่ำลา

THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น

หลังจากที่เราได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยที่ไม่ได้หาข้อมูลก่อนไปดูว่าภาพยนตร์ถูกจัดให้อยู่ในหมวด 15+ นั้น ขอสารภาพว่าเนื้อเรื่องนั้นเกินที่จินตนาการไว้ไปไกลมากอยู่เหมือนกัน อาจมีเรื่องของความรักเป็นตัวเปิดเรื่องและเป็นประเด็นหลักของเรื่อง แต่ประเด็นที่เรามองว่าน่าสนใจสำหรับเรื่องนี้ คือ ชีวิตของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องเริ่มต้นใช้ชีวิตพนักงานอย่างแท้จริงหลังจากเรียนจบ ได้เติบโต ได้เรียนรู้ว่าช่วงชีวิตของการเป็นผู้ใหญ่นั้นมันช่างหลากหลายอารมณ์ หลากหลายเหตุผลซะเหลือเกิน

การดำเนินเรื่องนั้นมีความเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่เพราะไม่หวือหวา นั่นจึงทำให้เรารู้สึกได้ สัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นช่วงเวลาที่คนดูอย่างเราเองก็เคยประสบมา แต่ถึงอย่างนั้นการหักมุมเบา ๆ ให้คนที่กำลังอินกับความเรียบง่ายอยู่ก็ถือว่ากระชากความรู้สึกได้ดีทีเดียว

ดู “THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น” จบ ก็ทำให้เรานึกย้อนไปในวันที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ ช่วงที่ยังมีพลังแห่งวัยรุ่นเหลือล้นอยู่ในตัว ทำงานมาหนักแค่ไหนก็โต้รุ่งกับเพื่อนได้ไม่มีเบื่อ นี่แหละน้าาา ความสวยงามของช่วงวัยรุ่น

THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น

นอกจากเนื้อเรื่องแล้ว เพลงประกอบก็เพราะไม่หยอก แต่ละเพลงยังคงวนอยู่ในหัวเราอยู่หลายวันหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ โดยเฉพาะเพลง エイリアンズ (Aliens) ของ リンジ (Kirinji) และอีกหนึ่งอย่างที่เราชอบก็คือฉากและแสงในเรื่องที่ดูธรรมดา ๆ แต่มีเสน่ห์มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สาธารณะ ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ เป็นโลเคชั่นที่น่าตามรอยและน่าลองไปถ่ายรูปในช่วงเวลาเดียวกันกับภาพยนตร์ดูสักครั้ง

ครั้งนี้เราจึงขอหยิบ 3 โลเคชั่น พื้นที่สาธารณะสุดเก๋ในภาพยนตร์เรื่องนี้มาแนะนำกัน!


ฉากที่ชวนให้เราออกวิ่ง เพื่อหลีกหนีพระอาทิตย์ในยามรุ่งสาง


เขตสุกินามิ, โตเกียว (Suginami, Tokyo)

หยุดรักไว้ที่วันนั้น

ฉากที่ตัวละครทั้ง 3 กำลังเดินกลับห้องเมื่อยามฟ้าสาง หลังจากที่สังสรร พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตกันมาตลอดทั้งคืน เป็นฉากโต้รุ่งที่ธรรมดา ๆ แต่ถ้าหากได้ลองออกวิ่งไปพร้อมกับเพื่อน เพื่อหนีแสงอาทิตย์ยามเช้าไปด้วยกันแบบนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ ในชีวิตเลยล่ะ

หยุดรักไว้ที่วันนั้น


ฉากที่ชวนให้ออกไปใช้เวลาดี ๆ ที่สวนสาธารณะในวันฟ้าใสของฤดูร้อน


สวนสาธารณะเซตากายะ (世田谷区立世田谷公園, Setagaya Park)

THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น

ช่วงฤดูร้อนที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น มีกิจกรรมมากมายให้คนได้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านกัน สวนสาธารณะก็มีอยู่แทบทุกเขต ทุกย่าน ที่รอให้คนได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ ฤดูร้อนที่มีไอน้ำจากน้ำพุช่วยคลายร้อน พร้อมกับเพื่อนหรือคนรักที่ได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ ด้วยกัน แค่นี้ก็ถือเป็นวันที่ดีแล้วล่ะน้า

THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น


ฉากที่ทำให้เราอยากออกไปนั่งดื่มชิล ๆ ในสวนสาธารณะที่มีวาฬสีฟ้าตัวใหญ่


สวนสาธารณะทามากาวะ โจซุอิ (杉並区立玉川上水公園, Tamagawa Josui Park)

หยุดรักไว้ที่วันนั้น

“สวนเจ้าวาฬ” (クジラ公園) แค่ชื่อเล่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็ชวนให้อยากแวะไปแล้ว อีกทั้งฉากนี้ยังถือเป็นฉากเปิดเรื่องที่ธรรมดาแต่มีเสน่ห์มาก ๆ ได้นั่งดื่มชิล ๆ ค่อย ๆ ปล่อยให้เวลาไหลไป แลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตกันนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เป็นค่ำคืนที่ดีได้เหมือนกันนะ

หยุดรักไว้ที่วันนั้น

และนี่คือ 3 สถานที่ที่เราหยิบมาแนะนำกันสำหรับไว้ตามรอยภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง THE END OF THE PALE HOUR หยุดรักไว้ที่วันนั้น” กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อยู่นะ (เริ่มฉายตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา) อย่าลืมไปดูกันล่ะ!

 

เรื่อง: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์


อ่าน “นิทรรศการ #My style, My ghibli หลงไปในโลกของจิบลิด้วยกันคลิก
5 ธรรมเนียมน่ารู้เมื่อเยือนศาลเจ้าญี่ปุ่นคลิก

views