Tokoname Pottery Footpath


สารภาพตามตรงว่าเคยเห็นรูปแมวกวักยักษ์จากเว็บอะไรสักเว็บแล้วก็กรีดร้องเลย ถึงกับปักหมุดให้เป็นสถานที่ๆ ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยนะ 555

จวบจนโอกาสมาถึง และเราพอมีเวลา 1 วันในเมืองนาโกย่า การเดินทางจากสถานีรถไฟ Nagoya Station ที่อยู่ใจกลางเมืองออกมาราวๆ 40 นาที เพื่อมายัง  Tokoname Station ก็เป็นเรื่องที่เราเลือกจะทำในทริปนี้

ความสนุกของการเดินทางก็คือเราไม่รู้ว่าจะหลงทางไหม หรือจะเจออะไรระหว่างทางบ้าง แต่พอเราก้าวเท้าลงจากรถไฟแล้วก็พบว่าสถานีโทโกนาเมะ นั้นมีความคลาสสิค แถมยังมีศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มีโบรชัวร์และแผนที่ไว้แจกสำหรับผู้มาเยือนด้วย


การผจญภัยกำลังเริ่มต้น พอออกจากสถานีก็เดินไปทางซ้ายมือ ก็พบเหล่าแก๊งแมวเครื่องปั้นดินเผาหลากหลายแบบมารอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ และมีแผนที่การเดินทางไปยัง  Tokoname Pottery Footpath ให้เดินไปตามทางด้วย สิ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ไปยิ่งกว่าเจ้าแมวกวักยักษ์ ก็คือความเป็นเมืองเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่ และเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 6 เตาเผาโบราณของประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ






ว่ากันว่าที่เมืองโทโกนาเมะแห่งนี้ มีดินที่เหมาะกับการทำเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งตั้งแต่อดีต ดินของโทโกนาเมะมักจะถูกขนส่งไปทำรูปปั้นขนาดใหญ่ และพอเข้าสู่ยุคเฮอันและคามาคุระ ถ้วยและเหยือกสไตล์โทโกนาเมะยากิ (โทโกนาเมะแวร์) มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เป็นเครื่องใช้ที่ชาวบ้านทั่วไปในสมัยนั้นนิยมกัน


  

เครื่องปั้นดินเผาโทโกนาเมะทำจากดินของนาข้าวที่ประกอบไปด้วยแร่เหล็กจำนวนมาก จึงทำให้เมื่อนำมาทำเครื่องปั้นดินเผา จึงให้สีแดงเข้ม กลายเป็นเอกลักษณ์เด่นของโทโกนาเมะยากิ นิยมนำมาทำเป็นถ้วยน้ำชาสีแดงอิฐ โดยได้รับสไตล์การทำถ้วยน้ำชานี้มาจากจีน ในช่วงปี ค.ศ. 1861 – 1864 มีการจ้างช่างฝีมือชาวจีนให้เข้ามาสอนเทคนิคในการทำเครื่องปั้นดินเผาชนิดนี้แก่ช่างฝีมือโทโกนาเมะในปี ค.ศ. 1878 ส่งผลให้เกิดการพัฒนาการผลิตถ้วยชาสีแดงนี้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงเทคนิคในการสลักชื่อบนถ้วยชาด้วย จวบจนปัจจุบัน โทโกนาเมะยากิ นิยมใช้ในรูปแบบของถ้วยชา กระถางบอนไซ เตาเผาใบชา กาเหล้า เป็นต้น

ความสนุกที่รอเราอยู่ตลอดทางคือ ถนนเครื่องปั้นดินเผาที่เรากำลังมุ่งหน้าไปนั้น มีมวลแมวที่มาในรูปแบบเครื่องปั้นดินเผา จากศิลปินฝีมือดีมากมายกว่า 100 ตัว รอให้คนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และชอบแมวได้สนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวที่นี่

นอกจากนั้นยังได้เห็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ของเมืองที่เคยรุ่งเรืองในเรื่องเครื่องปั้นดินเผามาก่อน เพราะมีซากเตาเผาเก่า โรงงาน และอาคารที่แปลกตาจากเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่นอย่างชัดเจน  และปัจจุบันที่นี่ก็มีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า แกลเลอรี รวมทั้งคาเฟ่ที่ดูทันสมัยชวนให้แวะชมตลอดสองข้างทางเลยล่ะ อย่างมีร้านหนึ่งที่เราได้มีโอกาสก้าวเข้าไป เราเห็นคุณลุงคุณป้า เพิ่งเก็บข้าวของ และเตรียมเครื่องปั้นเข้าเตาอบ ที่นี่จึงเป็นสถานที่สำหรับเวิร์คช็อปทำเครื่องปั้นดินเผาของตัวเองได้อีกด้วย

เราคิดว่าถ้าใครชอบงานปั้นเป็นทุนเดิม บวกกับความตื่นตาตื่นใจของทิวทัศน์ตลอด 2 ข้างทาง เพราะมีความโบราณคลาสสิคในบ้านเรือนและอาคารเก่าๆ สามารถเดินเพลินๆ ได้ตลอดทั้งวัน แค่ดูลวดลายกระเบื้องที่ปูตลอดทางเดินก็สนุกแล้วล่ะค่ะ และว่ากันว่าที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตแมวกวักที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะ

 


และวินาทีที่รอคอยก็มาถึง ตอนที่ได้สบตากับเจ้าแมวกวักยักษ์ ที่ชื่อว่า โทโคเนียน (Tokonyan) ครั้งแรกก็ทำให้ใจเต้นแรงชะมัด ไม่ใช่เพียงเพราะความน่ารัก หรือความชอบแมวโดยส่วนตัว แต่เราประทับใจความอลังการของเข้าแมวกวักที่เราเคยเห็นจากรูปถ่ายของคนอื่น แล้วมาเห็นด้วยตาตัวเองนั่นแหละ เจ้าโทโคเนียนนี้มีความสูงกว่า 3.8 เมตร กว้างกว่า 6.3 เมตร สร้างขึ้นราวปี ค.ศ.2008 คอยกวักมือเรียกแขกอยู่ตรงถนนโทโกนาเมะ-มาเนกิเนโกะ (Tokoname-Manekineko Street) แห่งนี้



ความสนุกของการเดินทางคือการที่เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเจออะไรระหว่างทางบ้าง พอได้มีโอกาสมาที่  Tokoname Pottery Footpath แห่งนี้ ก็คิดว่ามีแต่แมวกวักยักษ์ดึงดูดใจเราเท่านั้น แต่จริงๆ ตลอดการเดินทางมายังที่นี่ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลของบ้านเรือนเก่าๆ รวมทั้งความสนุกสนานที่ได้เจอแมวในแบบเครื่องปั้นดินเผาที่แปลกตาออกไปจากที่เคยเห็น

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสมาเที่ยวที่จ.ไอจิ และมีเวลาว่างๆ สัก 1 วันลองมาเที่ยวที่นี่ดูนะคะ


เว็บไซต์
 www.tokoname-kankou.net
วิธีเดินทาง
จากสถานี Meitetsu Nagoya (Nagoya Station)  ไปยังชานชาลาที่ 4 (Track No.4) ขึ้นรถไฟ (ป้ายสีเขียว) สาย Meitetsu Tokoname Line หรือ Meitetsu Airport Line ไปลงยังสถานี Tokoname

views