เดินทางสู่ Taj Mahal อนุสรณ์แห่งความรัก
5 กรกฏาคม 2560
ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ 03.50 น. – สนามบิน New Delhi 06.25 น. โดยสายการบิน Spice Jet SG88 ซึ่งในวันเดินทางสายการบินได้แจ้งล่าช้าไปอีก 2 ชั่วโมง…….
ในส่วนการเช็คอินทางเราได้ทำการขอวีซ่าแบบ E-VISA ทางสายการบินได้ให้เราช่วยเข้าเว็บไซค์อีกแรงเพื่อลงทะเบียนที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วให้เจ้าหน้าที่ถ่ายหน้าจออีกที…..
6 กรกฏาคม 2560 เช้านี้ที่ New Delhi
กว่าจะถึงสนามบิน New Delhi และจัดการธุระส่วนตัวของแต่ละคนเสร็จ ก็ปาเข้าไปจะ 9 โมงแล้ว เลยเวลานัดกับ Mr. HAPPY คนรถของเราไปเกือบ 3 ชม. (มารู้ว่าตอนหลังว่าเขามารอตั้งแต่ ตี5) ท่าทาง Mr. HAPPY ของเราจะเป็น Mr. UNHAPPY ไปซะแล้ว
Taj Mahal ตั้งอยู่ในเมือง Agra หรือ เมืองอัครา ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ถ้าใครอยากซึมซับถึงความเป็นอินเดียก็มีรถไฟให้บริการ สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ ส่วนเราพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าตรู่ไปยังเมือง Leh Ladakh เลยติดต่อทางเอเจนจัดรถไว้คอยบริการแล้ว เอาเข้าจริงกว่าจะฝ่ารถติดใน Delhi ไปได้ ก็ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่า แถมเส้นทางไปยังเมือง Agra ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม. ตลอดเส้นทาง ถึงแม้ถนนจะกว้างและโล่งแค่ไหนแต่ Mr. HAPPY ก็ยังคงขับไม่เกิน 100 กม./ชั่วโมง
Taj Mahal อนุสรณ์แห่งความรัก
บ่ายแก่ๆ ก็ถึงจุดจอดรถ ซึ่งต้องต่อรถไปอีกไกลพอสมควร แต่ที่นี่มีรถกอล์ฟ รถบัส หรือจะใช้บริการรถม้าก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ซึ่งเรานัดกับไกค์ท้องถิ่นไว้ สำหรับการเข้าชมทางไกค์บอกให้พกแค่กล้องและของสำคัญติดตัวไปเท่านั้น กระเป๋าใบใหญ่ไม่สามารถนำเข้าไปได้ จากนั้นทางไกค์แจกตั๋ว น้ำดื่ม และ ถุงเท้ากระดาษสำหรับคลอบรองเท้าไว้ตอนเข้าชมภายใน Taj Mahal มาถึงด่านตวจซึ่งตรวจเข้มมาก ทั้งแยกชายหญิง เข้าเครื่องสแกนตรวจทุกอย่างที่ติดตัวเข้าไป มั่นใจได้เลยถึงความปลอดภัย
ซุ้มประตูทางเข้า Taj Mahal และมุมภาพมหาชน
Taj Mahal : เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะที่นี่เป็นสุสานฝังศพของ มุมทัชมาฮัล ราชินีผู้ป็นที่รักยิ่งของ พระเจ้าชาห์เยฮัน อยู่ในเมืองอัครา บนฝั่งแม่น้ำยมนา ประเทศอินเดีย มุมทัชมาฮาล เป็นมเหสีที่พระเจ้าชาห์เยฮันรักมากที่สุด พระนางสิ้นพระชนม์เพราะคลอดโอรสองค์ที่ 15 ซึ่งทำให้พระเจ้าชาห์เยฮัน เศร้าโศกมาก พระองค์จึงสร้างที่ฝังศพที่หญ่โตที่สุดในโลกขึ้นที่ริมแม่น้ำยมนา สร้างระหว่างปี พ.ศ. 2173-2191 เสียเวลาสร้างอยู่ 23 ปี ทุกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย โดยสถาปนิก อุสตาด ไอสา (Ustad lsa) มีผู้ร่วมสร้างเป็น ผู้ออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างประดับลวดลายด้วยกระเบื้อง ช่างแกะสลัก ช่างตกแต่งภายใน รวม 20,000 คน วัตถุในการก่อสร้าง คือ หินอ่อนสีขาวจากเมืองมะครานา หินอ่อนสีแดงจากเมืองฟาตีบุระ หินอ่อนสีเหลือง จากฝั่งแม่น้ำนรภัทฑ์ เพชรตาแมวจากกรุงแบกแดด ปะการัง และ หอยมุกจากมหาสมุทรอินเดีย หินเจียรไนสีฟ้าจากเกาะลังขะ เพชรจากเมืองบนทลขัณฑ์ สิ้นเงินค่าก่อสร้างประมาณ 1,000,000,000 บาท ซึ่งได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่าสร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วน และ วิจิตรงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร มีโดมเล็กๆ เป็นหอสูงอยู่ทั้ง 4 มุม ภายในประดับด้วย หินอ่อนสลักฉลุเป็นลวดลายวิจิตรตระการตาแทรกเสริมด้วย พลอยสี ทับทิม และนิล ตรงกลางภายใต้หลังคาโดมใหญ่มีแท่นวางหีบศพที่ทำด้วยหินอ่อน และมีฉากหินอ่อนฉลุลายงามเป็นพิเศษกั้นอีกชั้นหนึ่ง แต่ศพจริงๆ ไม่ได้บรรจุอยู่ในหีบ หากฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินตรงกับที่วางหีบศพนั้น ภายหลังที่สร้างทัชมาฮัล ซาร์เจฮันใฝ่ฝันที่จะสร้าง ที่ฝังศพตัวเองที่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำล้วนๆ แต่ลูกชายเกรงเงินจะหมดจะไม่มีใช้ เมื่อขึ้นครองราชสมบัติจึงจับพ่อขังอยู่ได้ 7 ปี ก็สิ้นพระชนม์ ประมาณปี พ.ศ.2209 แล้วเอาศพไปฝังข้างศพแม่ ส่วนนายช่างผู้ออกแบบถูกสั่งให้ประหาร ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีโอกาสออกแบบสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ทัชมาฮัลเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าสร้างขึ้นมาได้อย่างเหมาะสมสวยงามน่ามหัศจรรย์
เตรียมตัวเดินทางสู่ Leh Ladakh
หลังจากอิ่มเอิ่มกับอนุสรณ์แห่งความรักก็ถึงเวลาเดินทางกลับสู่ Delhi ซึ่งใช้เวลาอีกกว่า 4 ชั่วโมง ไปยัง Terminal 1 สนามบินภายในประเทศกับสายการบิน Go Air 05.10-06.30 น. เอาเข้าจริงวันนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่เหนื่อยมาก ถึงสนามบินก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่า ทั้งเหนื่อยทั้งเหนียวตัวอยากอาบน้ำ สุดท้ายจึงตัดสินใจไปใช้บริการเลาจ์นของสนามบินซึ่งอัตราค่าบริการคิดเป็นชั่วโมง แต่ด้วยการขายขั้นเทพของพนักงานอินเดีย จึงเสนอเพิ่มให้เราเป็น 3 ชั่วโมง ในราคา 1 ชั่วโมง แต่เป็น 1 ห้อง ต่อ 2 คน ทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมอาหารทานเล่นอีก 2 ที่ สรุปวันนั้นได้อาบน้ำอุ่นๆ กินชาร้อนๆ และได้หลับสนิทอีก 1 ชั่วโมงเต็ม…ฟินในระดับนึง
กริ้งงงงงง….เสียงปลุกจากโทรศัพท์ในเวลา ตี3 เตรียมตัวพร้อมเดินทางสู่ Leh Ladakh…..