What Do You Think?
JoJo’s Bizarre Adventure
ดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด
JoJo’s Bizarre Adventure ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็น จั๊มป์ในปี ค.ศ.1987 เขียนโดย ฮิโรฮิโกะ อารากิ
ถ้าพูดถึงการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว บางคนอาจคิดถึง “แสตนด์” หรือพลังลึกลับที่เหล่าตัวละครทั้งหลายมีกัน
บางคนอาจคิดถึงเสื้อผ้าสีฉูดฉาด หรือทรงผมและการแต่งหน้าสุดล้ำหลุดโลก
แต่เหตุผลที่ทำให้เราสนใจอยากดูเรื่องนี้ก็คือท่าโพสแหวกแนวที่พยายามเลียนแบบยังไง้ยังไงก็ไม่เท่เท่าตัวละคร
(กระดูกลั่นกร๊อบแถมยังเส้นตึงไปหมด) แถมยังคุ้นตามาตั้งแต่เด็กแต่ไม่เคยได้มีโอกาสอ่าน
หรือดูเลยสักครั้งเลยขอจัดสักหน่อย
ไม่ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะผ่านมากี่สิบปี แต่จุดเด่นบางอย่างของเรื่องก็อาจเรียกได้ว่าไม่ต่างจากการ์ตูนในยุคปัจจุบันนัก
โดยเฉพาะความดีสุดขั้วของตัวดี และความชั่วสุดขีดของตัวร้าย (ขอโยงเข้าหัวข้อสักหน่อย) โดยมันก็ยังถูกผลิตซ้ำ
ในภาพยนตร์หรือสื่อต่างๆ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป แน่นอนว่าใน JoJo’s Bizarre Adventure เราสามารถเห็นสองขั้วที่
แตกต่างได้ชัดเจนในพาร์ทแรก (Phantom Blood: สายเลือดปีศาจ) ซึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างพระเอกของเรา
โจนาธาน โจสตาร์ แห่งตระกูลโจสตาร์ และตัวร้ายอย่าง ดีโอ บรันโด บุตรบุญธรรมแห่งตระกูลโจสตาร์นั่นเอง
เมื่อพูดว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างบุตรตามกฎหมายกับบุตรบุญธรรม หลายคนอาจจะคิดล่วงหน้าไปแล้วว่าการต่อสู้นี้
ต้องเกิดจากการที่บุตรบุญธรรมจ้องจะฮุบทรัพย์สมบัติที่เป็นของตระกูลพระเอกแน่เลย บอกเลยว่าคุณคิดไม่ผิด
(ถ้าใครคิดผิดก็ไม่ต้องเสียใจ เช็ดน้ำตาแล้วอ่านให้เสร็จก่อน) ดีโอมาเยือนตระกูลนี้เพราะจดหมายที่พ่อของตน
เขียนให้ จอร์จ โจสตาร์ พ่อของพระเอกเพราะจอร์จเคยติดหนี้บุญคุณเขาไว้ เลยทำให้ต้องรับดีโอไว้เป็นบุตรบุญธรรม
ความร้ายของเขาคือการอาศัยความเป็นบุตรปูทางให้ตัวเองเพื่อไปถึงเป้าหมายใหญ่ที่ตั้งเอาไว้ซึ่งก็คือการฉกฉวยสมบัติ
ของตระกูลโจสตาร์ซึ่งมีบุญคุณเลี้ยงดูเขามานานหลายปี เป็นไงล่ะ เห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่าดีโอคือตัวร้ายขนานแท้
เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ วุ้ย
ดีโอ บรันโด
แล้วทำไมถึงทำอย่างนั้นล่ะ?
บอกเลยว่าไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงหรอก (อ้าว) แต่สิ่งที่เราสังเกตและเก็บสะสมได้ระหว่างทางคือครอบครัวของดีโอนั้น
ไม่ใช่ครอบครัวที่ดีนัก แม่ของเขาจากไปตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนพ่อก็ติดเหล้าแถมยังใช้กำลังกับลูกชายของตนเองด้วย
ฉะนั้นถ้าลองปะติดปะต่อเรื่องราวเองก็สามารถร่างข้อสรุปได้ว่าการที่ดีโอเป็นคนไม่ดีแบบนี้ก็เพราะว่าเขามีอดีตที่
ไม่น่าจดใจหรือเรียกว่าเป็นอดีตที่บอบช้ำเลยก็ว่าได้ เบ้าหลอมสร้างตัวตนของดีโอจึงบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปร่าง
ในขณะเดียวกัน โจนาธาน คือขั้วตรงข้าม เขาเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย ถึงแม่จะจากไปตั้งแต่เขายังเด็กเหมือนดีโอ
แต่พ่อก็อบรมเลี้ยงดูเขาให้เป็นสุภาพบุรุษ มีการศึกษา มีอิสระ ไม่ต้องเล่นการพนันเพื่อหาเงินเพื่อซื้อเหล้าหรือ
รองรับอารมณ์โมโหร้ายของพ่อ พูดง่ายๆ ว่าเติบโตมาในครอบครัวที่ดี แล้วเราก็ได้เห็นความคิดของพระเอกในหลายฉาก
ว่าเขามีความคิดแบบ “พระเอก” สุด ๆ ประเภทที่ว่าต่อให้ตัวร้ายนั้นแย่แค่ไหน ก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดเข้าไส้
แถมยังเกิดความสงสารต่อสิ่งที่ดีโอกำลังเผชิญอีกด้วย
โจนาธาน โจสตาร์
เมื่อเราดูพาร์ทแรกจบ มันก็อดมานั่งคิดไม่ได้ว่าหรือสิ่งที่การ์ตูนอยากจะสื่อถึง คือความดีความชั่วที่บ่มสร้างในตัวคน
ซึ่งได้รับอิทธิพลที่มาจากการเลี้ยงดูขนานแท้ หากถามเรา มันก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะมีส่วนถูกต้อง ยังไงมนุษย์ทุกคน
ย่อมถูกหล่อหลอมจากการเลี้ยงดู หรือประสบการณ์ หรือสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น
แต่พอนั่งคิดไปนานๆ แล้วก็ตั้งคำถามอีกว่าทำไมดีโอถึงได้เลวร้ายขนาดนั้น ความอบอุ่นจากพ่อบุญธรรมอย่างจอร์จ
การให้โอกาสดีโอมีการศึกษาที่ดี และการปฏิบัติตัวของสองพ่อลูกประหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว อะไรพวกนี้ไม่ได้
ทำให้เขาเปลี่ยนไปบ้างเลยเหรอ
หรือความดีความชั่วนั้นมาจากแก่นของมนุษย์ซึ่งเป็นเรื่องของปัจเจก จะเจอสถานการณ์แบบไหน หล่อหลอมมายังไง
สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี
หรือจริงๆ คำตอบสุดท้ายคือ ก็เพราะการ์ตูนต้องมีตัวร้ายเพื่อสู้กับตัวดีไง เรื่องมันถึงจะสนุก
จะคิดให้เยอะทำไมล่ะท่าน (ยิ้มแห้ง)
แล้วคุณล่ะคิดอย่างไร?