Yuhi No Ato เรื่องราวของผู้หญิงที่ทอดทิ้งความเป็นแม่ และผู้หญิงที่ต้องการความเป็นแม่
หนึ่งในภาพโปรโมทของภาพยนตร์เรื่อง 夕陽のあと (Yuhi No Ato) ฉากเรือลำหนึ่งที่ล่องอยู่กลางทะเลในเวลาพระอาทิตย์ใกล้อัสดงนั้น ชวนให้เราหยุดดู และกลายเป็นต้องค้นหาข้อมูลของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้มากขึ้น เรื่องราวระหว่างแม่ผู้ให้กำเนิดที่อยากจะกลับมาดูแลลูกที่ตนเคยทิ้งไว้หน้าอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ กับแม่ผู้ที่เลี้ยงดูเด็กที่ถูกทิ้งไว้หน้าเน็ตคาเฟ่เป็นอย่างดี และกำลังจะถูกพรากเขาไปจากเธอ ได้อ่านข้อมูลเพียงแค่นี้ ก็รู้สึกน่าสนใจมากแล้ว
เราจึงขอหยิบเรื่องราวของภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้มาแนะนำให้คุณผู้อ่านได้ลองอ่านกัน และหวังว่าคงจะมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์บ้านเราในอนาคต
เรื่องราวหลังพระอาทิตย์อัสดง
ณ เมืองนากาชิมะ เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดคาโกชิมะ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยทะเลสีฟ้า อาคาเนะ ซาโตะ (รับบทโดย ชิโฮริ คันจิยะ – Shihori Kanjiya) ย้ายจากเมืองใกล้เคียงมาอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนี้เมื่อช่วงปีก่อน และทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับท่าเรือ ผู้คนในเกาะต่างรู้จักเธอเป็นอย่างดีเพราะความสดใสร่าเริงของเธอเวลาทำงาน แต่เธอนั้นกลับพูดถึงเรื่องราวชีวิตของตัวเองน้อยมาก รวมถึงเรื่องราวในอดีตที่เธอปิดซ่อนเอาไว้ด้วย
อีกฝั่งหนึ่ง ซัทสึกิ ฮิโนะ (รับบทโดย มาโฮะ ยามาดะ – Maho Yamada) ที่เติบโตมาบนเกาะแห่งนี้ และมีสามีคือ ยูอิจิ ฮิโนะ (รับบทโดย มาซารุ นากาอิ – Masaru Nagai) ผู้ที่รับหน้าที่ดูแลกิจการเพาะเลี้ยงปลาหางเหลืองของครอบครัวที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน พวกเขาอาศัยอยู่กับมิเอะ ฮิโนะ (รับบทโดย มิโดริ คิอุจิ – Midori Kiuchi) ผู้เป็นแม่สามี และลูกชายวัย 7 ขวบ โทวะ ฮิโนะ (รับบทโดย โทวะ มัทซึบาระ – Towa Matsubara) ที่ครอบครัวนี้รับมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
หลังจากที่ซัทสึกิพยายามมีลูกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ และด้วยคำแนะนำจากฮิเดยูกิ นีมิ (รับบทโดย ซาโตรุ คาวากุจิ – Satoru Kawaguchi) เพื่อนสมัยเด็กของเธอที่ทำงานอยู่ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาเรื่องเด็ก ที่ได้แนะนำโทวะ เด็กที่ทางศูนย์ดูแลอยู่ให้เธอได้รู้จักนั้น ครอบครัวฮิโนะก็ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงโทวะเป็นบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ระหว่างขั้นตอนการขอรับเลี้ยงดูบุตรบุญธรรม ตามข้อกำหนดของศาลครอบครัวได้ระบุไว้ว่าเด็กที่ครอบครัวรับเลี้ยงจะต้องมีอายุไม่เกิน 8 ขวบ และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ให้กำเนิดด้วย ในกรณีของโทวะ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์มาตลอดนั้น ดูเหมือนว่าจะทำให้กระบวนการในการขอรับเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมผ่านไปได้อย่างราบรื่น
แต่แล้วซัทสึกิก็ได้รับแจ้งข้อมูลที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่า โทวะคือเด็กทารกที่ถูกทิ้งไว้หน้าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในโตเกียวเมื่อ 7 ปีก่อน และแม่ผู้ทอดทิ้ง รวมทั้งถูกตัดสินให้ถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี และรอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปีนั้น คือ อาคาเนะ ซาโตะ นั่นเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม
การรับเลี้ยงเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ขวบนั้น ผู้ที่รับเลี้ยงนั้น คนใดคนหนึ่งจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และอีกคนจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี และจะต้องมีการทดลองดูแลบุตรบุญธรรมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อน
อนาคตของเด็กจะเป็นอย่างไร?
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวของคนเป็นแม่ทั้ง 2 ฝั่งให้เราได้เห็น และได้ทำความรู้จักมากยิ่งขึ้น ก่อนจะได้รับรู้ถึงอนาคตของโทวะ ว่าสุดท้ายแล้วคนที่เหมาะสมจะได้เลี้ยงดูเขาคือใคร ซึ่งอาจจะช่วยให้ผู้ชมอย่างเราได้เรียนรู้มุมมองของคนเป็นแม่ที่หลากหลายมากขึ้น รวมทั้งได้เรียนรู้ว่าเราไม่อาจตัดสินใครได้จากข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่เราได้รับรู้มา
อีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ กฎหมายในการรับบุตรบุญธรรมของประเทศญี่ปุ่น ที่ข้อกำหนดในการรับเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมดูเหมือนว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับฝั่งผู้ให้กำเนิด มากกว่าผู้ที่ต้องการจะรับเลี้ยงดูจริงๆ นั้น ทำให้เป็นอีกประเด็นที่ผู้ชมคงต้องมานั่งลุ้นกันว่าสุดท้ายแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
และที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเราคงเป็นการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นได้จากความปรารถนาของผู้คนบนเกาะนากาชิมะ ที่ต้องการจะสื่อสารให้ผู้คนภายนอกได้รับรู้ว่าเกาะแห่งนี้ยินดีที่จะต้อนรับทุกคนที่อยากจะใช้ชีวิตครอบครัวอย่างเรียบง่ายจากรุ่นสู่รุ่น ดั่งทะเลกว้างใหญ่ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตมากมาย รวมทั้งเฝ้ามองชีวิตของมนุษย์เรามาอย่างยาวนาน
ชาวเมืองนากาชิมะ ดำรงชีพด้วยการทำอุตสาหกรรมการประมง ทำฟาร์มปลาหางเหลือง การเกษตร และการปศุสัตว์เป็นหลัก เป็นชุมชนที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น ร่วมด้วยช่วยกันสร้างวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมทั้งมีการส่งต่อกิจการจากรุ่นสู่รุ่นตลอดมา แต่เนื่องด้วยอัตราการเกิดที่ลดลง ทำให้เมืองนากาชิมะเป็นอีกเมืองที่ได้รับผลกระทบเรื่องจำนวนประชากรเฉกเช่นอีกหลายเมืองในประเทศญี่ปุ่น นี่จึงอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ชาวเมืองอยากจะให้มีภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมานั่นเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม: Website / Facebook / Twitter
เรื่อง: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
อ่านข้อมูล Sony Pictures เตรียมสร้างไลฟ์แอคชั่น One-Punch Man คลิก
